Page 11 - kpiebook66023
P. 11

มาตรการทางกฎหมาย : ศึกษารูปแบบนิติบุคคลที่เหมาะสมเพื่อการส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม




                  สมดุลระหว่างปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ ตั้งแต่เรื่องของแหล่งรายได้ แรงจูงใจ วิธีการที่หลายหลาย เพื่อบรรลุ
                  วัตถุประสงค์ทางสังคม นักวิชาการส่วนใหญ่จึงถือว่าองค์กรไม่แสวงหาก าไรในลักษณะดังกล่าวเป็นวิสาหกิจ
                          8
                  เพื่อสังคม

                  2.2 ปัจจัยทำงโครงสร้ำงสถำบันที่ส่งผลต่อแนวคิดของวิสำหกิจเพื่อสังคม

                         มีปัจจัยต่าง ๆ มากมายที่ส่งผลต่อพัฒนาการของวิสาหกิจเพื่อสังคม โดยหนึ่งในปัจจัยที่ส าคัญนั้น
                  คือ โครงสร้างทางสถาบันของแต่ละประเทศ เช่น การก าหนดนโยบายส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคมของภาครัฐ
                  กรอบทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง สภาพสังคม เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และการเมืองของแต่ละประเทศ ทั้งยัง

                  รวมถึงจ านวนและความส าเร็จหรือล้มเหลวของวิสาหกิจเพื่อสังคมด้วย ซึ่งช่วยให้สามารถเห็นรูปแบบ
                                                     9
                  องค์กรของวิสาหกิจเพื่อสังคมที่หลากหลาย  กระนั้นก็ตาม แม้จะเป็นการวิเคราะห์แนวคิดของวิสาหกิจเพื่อ
                  สังคมจากกรอบภาพรวมใหญ่ระดับประเทศ แต่ก็ยังเป็นการมุ่งไปยังประเทศใดประเทศหนึ่งเป็นหลัก ซึ่ง
                                                                                             10
                  อาจไม่สามารถน ามาใช้อธิบายลักษณะของวิสาหกิจเพื่อสังคมได้อย่างครบถ้วนและเป็นสากล
                         สหราชอาณาจักรเป็นประเทศที่มีการวิเคราะห์รูปแบบองค์กรของวิสาหกิจเพื่อสังคมจากโครงสร้าง
                  เชิงสถาบันต่าง ๆ ไว้ค่อนข้างมาก เนื่องจากมีพัฒนาการของภาคส่วนที่ช่วยเหลือสังคม หรือเรียกว่า ภาค
                  ส่วนที่สาม (Third Sector) มายาวนานและมีความเข้มแข็ง ท าให้เกิดการแบ่งรูปแบบองค์กรของวิสาหกิจ
                  เพื่อสังคมที่หลากหลายมากเสียจนรัฐบาลตัดสินใจที่จะไม่ก าหนดค านิยามตามกฎหมายของวิสาหกิจเพื่อ

                  สังคมไว้เลย เนื่องจากไม่สามารถอธิบายและก าหนดความหมายให้ครอบคลุมกับรูปแบบองค์กรได้ครบทุก
                  ประเภทนั่นเอง ตัวอย่างรูปแบบองค์กรของวิสาหกิจเพื่อสังคมในสหราชอาณาจักร ได้แก่ การรวมกลุ่ม
                  องค์กรเพื่อประโยชน์ของสมาชิกและชุมชน เช่น mutuals สหกรณ์ สมาคม และวิสาหกิจชุมชน การ
                  รวมกลุ่มองค์กรเพื่อประโยชน์สาธารณะ เช่น มูลนิธิ การรวมกลุ่มของภาคเอกชนเป็นธุรกิจเพื่อสังคม

                  (social business) และการรวมกลุ่มองค์กรเพื่อให้บริการสาธารณะแทนภาครัฐ (public services) ซึ่งส่วน
                  ใหญ่จะก่อตั้งโดยรัฐและต่อมาแยกตัวเพื่อด าเนินการต่อโดยภาคประชาสังคม เรียกว่า “public-sector
                                                                                 11
                  spin-offs” หรือทางฝั่งอเมริกาจะเรียกว่า “public-private partnerships”  เป็นต้น
                         หากพิจารณาจากบริบทของประเทศไทยนั้น จะเห็นว่ามีรูปแบบองค์กรต่าง ๆ เหล่านี้เช่นเดียวกัน
                  เพียงแต่อาจเรียกชื่อที่แตกต่างกันไป ประเทศไทยก็มีรูปแบบองค์กรที่หลากหลายไม่ต่างกัน เช่น สหกรณ์
                  สมาคม วิสาหกิจชุมชน มูลนิธิ สโมสร บริษัท ห้างหุ้นส่วน รัฐวิสาหกิจ หรือองค์การมหาชน เป็นต้น อาจ
                  เกิดการตั้งค าถามว่า ในเชิงแนวคิดนั้น รูปแบบองค์กรเหล่านี้เป็นวิสาหกิจเพื่อสังคมทั้งหมดและโดย
                  อัตโนมัติหรือไม่ อาจตอบว่าไม่ใช่ เพราะวิสาหกิจเพื่อสังคมคือ องค์กรลูกผสม นั่นหมายถึง องค์กรรูปแบบ

                  ใหม่ที่มีการผสมผสานกันของรูปแบบองค์กรเดิมเหล่านี้ ซึ่งการผสมผสานที่เกิดขึ้นนั้นมีความหลากหลาย


                  8   Jacques  Defourny  and  Marthe  Nyssens.   ( 2010) .   Conceptions  of  social  enterprise  and  social
                  entrepreneurship in Europe and the United States:   Convergences and divergences.   Journal of Social
                  Entrepreneurship, 1(1), 32–53.
                  9  Janelle A.   Kerlin (Ed.). (2017). Shaping Social Enterprise:   Understanding Institutional Context and
                  Influence. Bingley: Emerald Group.
                  10  Defourny and Nyssens, supra note 3, at 2473.                                         16
                  11  Ibid, pp. 2474-75.
   6   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16