Page 6 - kpiebook66023
P. 6

มาตรการทางกฎหมาย : ศึกษารูปแบบนิติบุคคลที่เหมาะสมเพื่อการส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม




                         เนื่องจากรูปแบบองค์กรของวิสาหกิจเพื่อสังคมมีความหลากหลายอย่างมาก จึงท าให้การออก
                  กฎหมายว่าด้วยวิสาหกิจเพื่อสังคมไม่ไช่เรื่องง่ายนัก และเป็นไปไม่ได้ที่จะออกกฎหมายประเภทเดียวที่ดี

                  ที่สุดหรือเหมาะสมที่สุดส าหรับวิสาหกิจเพื่อสังคม เพราะการตัดสินใจว่าดีหรือเหมาะสมนั้น เป็นสิ่งที่
                  ผู้ประกอบการวิสาหกิจเพื่อสังคมจะต้องเป็นผู้หาค าตอบด้วยตนเองเพราะกิจการแต่ละประเภทมีความ

                  แตกต่างกัน กฎหมายเป็นเครื่องมือประการหนึ่งที่จะเสนอทางเลือกที่หลากหลายและยืดหยุ่นกับธรรมชาติ
                  ของวิสาหกิจเพื่อสังคม ดังนั้น รูปแบบองกร์ส าหรับวิสาหกิจเพื่อสังคมจึงเป็นเพียงประเด็นทางกฎหมายหนึ่ง

                  ที่เกี่ยวข้องกับวิสาหกิจเพื่อสังคมเท่านั้น ค าถามที่เกิดขึ้นตามมาคือ รูปแบบองค์กรตามกฎหมาย
                  (โดยเฉพาะรูปแบบองค์กรนิติบุคคล) มีความส าคัญอย่างไรต่อวิสาหกิจเพื่อสังคม วิสาหกิจเพื่อสังคม
                  จ าเป็นต้องมีรูปแบบองค์กรตามกฎหมายหรือไม่ และหากจ าเป็น รูปแบบองค์กรประเภทใดจึงจะเหมาะสม

                  ส าหรับวิสาหกิจเพื่อสังคม
                         แนวคิดและความส าคัญของรูปแบบองค์กรตามกฎหมาย (legal forms) ไม่ได้มุ่งเน้นที่การหา

                  ค าตอบว่า รูปแบบองค์กรใดที่เหมาะสมที่สุดส าหรับวิสาหกิจเพื่อสังคม และไม่ได้ต้องการแสวงหารูปแบบ
                  องค์กรที่ดีที่สุดเพียงหนึ่งเดียว แต่เป็นการแสวงหาความหลากหลายให้สามารถครอบคลุมถึงการ

                  ประกอบการที่แตกต่างกัน และเป็นเครื่องมือทางกฎหมายที่ต้องการสนองตอบความต้องการของวิสาหกิจ
                  เพื่อสังคมได้อย่างตรงจุด กล่าวอีกนัยคือ หากความต้องการของวิสาหกิจเพื่อสังคมคือการไม่แสวงหาก าไร

                  รูปแบบองค์กรที่เหมาะสมส าหรับวิสาหกิจเพื่อสังคมดังกล่าวย่อมเป็นรูปแบบไม่แสวงหาก าไร เช่น มูลนิธิ
                  แต่หากวิสาหกิจเพื่อสังคมมีการสร้างรายได้จากการประกอบธุรกิจ รูปแบบองค์กรที่สามารถส่งเสริมเรื่อง
                  ธุรกิจได้คือ บริษัท เป็นต้น

                         ดังนั้น ค าว่า “เหมาะสม” ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นการจัดตั้งรูปแบบองค์กรนิติบุคคล
                  ประเภทใดประเภทหนึ่งเท่านั้น และการจะบังคับให้วิสาหกิจเพื่อสังคมจะต้องจดทะเบียนในรูปแบบองค์กร

                  ประเภทเดียวกันทั้งหมดย่อมเป็นไปไม่ได้ เพราะเป็นการขัดต่อหลักเสรีภาพในการประกอบกิจการหรือ
                  ประกอบอาชีพภายใต้รัฐธรรมนูญและหลักการสากล ทั้งยังขัดกับธรรมชาติของวิสาหกิจเพื่อสังคมที่มีความ

                  หลากหลายอย่างมาก จึงท าให้ในหลายประเทศมีรูปแบบองค์กรที่หลากหลายประเภทมาก เช่น สหราช
                  อาณาจักรมีรูปแบบบริษัทถึง 4 ประเภท ได้แก่ บริษัทจ ากัดและไม่จ ากัดความรับผิด (Limited and

                  Unlimited Companies) บริษัทเอกชนและบริษัทมหาชน (Private and Public Companies) บริษัท
                  จ ากัดความรับผิดโดยหลักประกันและโดยหุ้น (Companies Limited by Guarantee and Having Share
                                                                                     2
                  Capital) และบริษัทเพื่อประโยชน์ชุมชน (Community Interest Companies)  ในขณะที่ประเทศไทยมี
                  เพียงรูปแบบบริษัทจ ากัดและบริษัทมหาชนจ ากัดเท่านั้น
                         เนื่องจากพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม พ.ศ. 2562 ก าหนดให้วิสาหกิจเพื่อสังคม

                  จะต้องจัดตั้งในรูปแบบองค์กรนิติบุคคลเท่านั้น โครงการวิจัยนี้จะศึกษาวิเคราะห์ว่ารูปแบบองค์กรนิติบุคคล
                  ตามกฎหมายมีความเหมาะสมต่อการส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคมในประเทศไทยหรือไม่ เพียงใด แต่ตามที่ได้
                  กล่าวไปข้างต้นแล้ว การจะหาค าตอบว่ารูปแบบองค์กรใดเหมาะสมกับวิสาหกิจเพื่อสังคม จ าเป็นต้องเข้า


                                                                                                           11
                  2  Legislation.gov.uk. (2023). Companies Act 2006. https://www.legislation.gov.uk/ukpga/2006/46/part/1/crossheading/types-of-company
   1   2   3   4   5   6   7   8   9   10   11