Page 48 - kpiebook66022
P. 48

สถาบันพระปกเกล้า
             King Prajadhipok’s Institute

                  2.3.1.4 หน้าที่การดำารงตนในตำาแหน่งที่ดี
                            รัฐธรรมนูญได้กำาหนดบทบาทให้แก่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภา
          ต้องไม่ใช้สถานะหรือตำาแหน่งการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภากระทำาการใด ๆ
          อันมีลักษณะที่เป็นการก้าวก่ายหรือแทรกแซงเพื่อประโยชน์ของตนเอง ของผู้อื่น หรือของพรรคการเมือง
          ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม (มาตรา 185) และ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต้อง (มาตรา 184)
                              ไม่ดำารงตำาแหน่งหรือหน้าที่ใดในหน่วยงานราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือ

          รัฐวิสาหกิจ หรือตำาแหน่งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น
                              ไม่รับหรือแทรกแซงหรือก้าวก่ายการเข้ารับสัมปทานจากรัฐ หน่วยราชการ
          หน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ หรือเข้าเป็นคู่สัญญากับรัฐ หน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือ
          รัฐวิสาหกิจอันมีลักษณะเป็นการผูกขาดตัดตอน หรือเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท
          ที่รับสัมปทานหรือเข้าเป็นคู่สัญญาในลักษณะดังกล่าว  ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม
                              ไม่รับเงินหรือประโยชน์ใด ๆ จากหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ
          เป็นพิเศษ นอกเหนือไปจากที่หน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจปฏิบัติต่อบุคคลอื่น ๆ
          ในธุรกิจการงานปกติ
                              ไม่กระทำาการใด ๆ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม อันเป็นการขัดขวางหรือ

          แทรกแซงการใช้สิทธิหรือเสรีภาพของหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนโดยมิชอบ
               2.3.2  อำานาจหน้าที่ของสมาชิกวุฒิสภา
                        รัฐธรรมนูญได้กำาหนดบทบาทหน้าที่ของสมาชิกวุฒิสภาทั้งเป็นหน้าที่เฉพาะตัวและหน้าที่
          ที่ต้องใช้พร้อมกับสภาผู้แทนราษฎร ดังนี้
                   2.3.2.1  การเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย
                            สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาย่อมไม่อยู่ในความผูกมัดแห่งอาณัติ
          มอบหมาย หรือความครอบงำาใด ๆ และต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตเพื่อประโยชน์ส่วนรวม

          ของประเทศชาติและความผาสุกของประชาชนโดยรวม โดยปราศจากการขัดกันแห่งผลประโยชน์
          (มาตรา 114)
                        2.3.2.2  อำานาจในการเข้าร่วมประชุมรัฐสภา
                            รัฐธรรมนูญกำาหนดให้ในปีหนึ่งให้มีสมัยประชุมสามัญของรัฐสภาสองสมัย ๆ หนึ่ง
          ให้มีกำาหนดเวลาหนึ่งร้อยยี่สิบวันแต่พระมหากษัตริย์จะโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ขยายเวลาออกไปก็ได้
          (มาตรา 121 วรรคสอง) อย่างไรก็ดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาทั้งสองสภารวมกัน
          หรือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มีจำานวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสามของจำานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของ
          ทั้งสองสภามีสิทธิเข้าชื่อร้องขอต่อประธานรัฐสภาให้นำาความกราบบังคมทูลเพื่อมีพระบรมราชโองการ
          ประกาศเรียกประชุมรัฐสภาเป็นการประชุมสมัยวิสามัญได้ (มาตรา 123 วรรคแรก)

                            การประชุมรัฐสภาถือว่ามีความสำาคัญในการปฏิบัติหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภาของ
          ประเทศไทย ดังนี้ รัฐธรรมนูญจึงได้กำาหนดให้สมาชิกวุฒิสภาที่ขาดประชุมเกินจำานวนหนึ่งในสี่ของจำานวน


           34
   43   44   45   46   47   48   49   50   51   52   53