Page 50 - kpiebook66022
P. 50
สถาบันพระปกเกล้า
King Prajadhipok’s Institute
จากบุคคลซึ่งมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 160 และเป็นผู้มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อ
ที่พรรคการเมืองแจ้งไว้ตามมาตรา 88 เฉพาะจากบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองที่มีสมาชิกได้รับเลือกเป็น
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไม่น้อยกว่าร้อยละห้าของจำานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร
แต่ตามบทเฉพาะกาล มาตรา 272 ได้กำาหนดให้ในระหว่าง 5 ปีแรกนับแต่วันที่
มีรัฐสภาชุดแรกตามรัฐธรรมนูญนี้ ให้วุฒิสภามีอำานาจร่วมกับสภาผู้แทนราษฎรในฐานะรัฐสภา พิจารณา
เพื่อแต่งตั้งผู้เป็นนายกรัฐมนตรีได้ในสองกรณีคือ
กรณีแรก การให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี
ให้ดำาเนินการตามมาตรา 159 ในระยะห้าปีแรกให้ ให้กระทำาในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา และมติที่
เห็นชอบการแต่งตั้งบุคคลใดให้เป็นนายกรัฐมนตรี ต้องมีคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำานวนสมาชิก
ทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา(มาตรา 272 วรรคแรก)
กรณีที่สอง หากมีกรณีที่ไม่อาจแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีจากกระบวนการในกรณีแรกได้
เมื่อสมาชิกของทั้งสองสภารวมกันจำานวนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของ
ทั้งสองสภาเข้าชื่อเสนอต่อประธานรัฐสภาขอให้รัฐสภามีมติยกเว้นเพื่อไม่ต้องเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี
จากรายชื่อที่พรรคการเมืองแจ้งไว้ ให้ประธานรัฐสภาจัดให้มีการประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณา
มติดังกล่าว โดยหากมีมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของจำานวนสมาชิกเท่าที่มีอยู่ทั้งหมด
ของสภาให้ยกเว้นได้ ก็ให้ดำาเนินการพิจารณาผู้ดำารงตำาแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยไม่ต้องเป็นผู้มีรายชื่อ
ในบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองแจ้งไว้ก็ได้ ทั้งนี้ จะมีการเสนอชื่อผู้อยู่ในบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองเสนอไว้
หรือไม่ก็ได้ โดยเมื่อมติมีคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา
ให้บุคคลนั้นได้ดำารงตำาแหน่งนายกรัฐมนตรี (มาตรา 272 วรรคสอง)
(2) หน้าที่ให้คำาแนะนำาในการสรรหาและแต่งตั้งผู้ดำารงตำาแหน่งสำาคัญต่าง ๆ ดังนี้
ก) การให้ความเห็นชอบในการแต่งตั้งผู้ได้รับการคัดเลือกหรือสรรหา
เพื่อดำารงตำาแหน่ง “ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ” ด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำานวนสมาชิกทั้งหมด
เท่าที่มีอยู่ของวุฒิสภา ให้ประธานวุฒิสภานำาความกราบบังคมทูลเพื่อทรงแต่งตั้งประธานศาลรัฐธรรมนูญ
และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ (มาตรา 204 วรรคท้าย)
ข) การให้ความเห็นชอบในการแต่งตั้งผู้ได้รับการแต่งตั้ง “ผู้ดำารงตำาแหน่ง
ในองค์กรอิสระ” ได้แก่ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ผู้ว่าการ
ตรวจเงินแผ่นดิน คณะกรรมการการเลือกตั้ง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
และผู้ตรวจการแผ่นดิน
2.3. สิทธิในการเสนอความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญ
พิจารณาการกระทำาที่ฝ่าฝืนบทบัญญัติตามมาตรา 144 วรรคสอง กล่าวคือ กรณีมีการกระทำาที่ฝ่าฝืน
ในส่วนของการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำาปีงบประมาณ และร่างพระราชบัญญัติ
งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม และร่างพระราชบัญญัติโอนงบประมาณรายจ่ายที่มีการการเสนอ การแปรญัตติ
หรือการกระทำาด้วยประการใด ๆ ที่มีผลให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภาหรือกรรมาธิการมีส่วน
ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่าย (มาตรา 144 วรรคสาม)
36