Page 52 - kpiebook66022
P. 52

สถาบันพระปกเกล้า
             King Prajadhipok’s Institute

          ไปยังประธานศาลฎีกาเพื่อตั้งคณะผู้ไต่สวนอิสระจากผู้ซึ่งมีความเป็นกลางทางการเมืองและมีความซื่อสัตย์
          สุจริตเป็นที่ประจักษ์ เพื่อไต่สวนหาข้อเท็จจริง (มาตรา 236)
                   2.3.2.9  อำานาจหน้าที่ในบทเฉพาะกาลของวุฒิสภาชุดแรกที่ได้รับแต่งตั้งจำานวน 250 คนแรก
          ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำาหนดไว้ในบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญ มาตรา 269 กำาหนดให้ทำาหน้าที่ ดังนี้
          (มาตรา 270)
                              ติดตาม เสนอแนะ และเร่งรัดการปฏิรูปประเทศ เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย

          ตามหมวด 16 การปฏิรูปประเทศ และการจัดทำาและดำาเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ
                              พิจารณาร่างพระราชบัญญัติที่จะตราขึ้นเพื่อดำาเนินการตามหมวด 16 การปฏิรูป
          ประเทศ โดยให้เสนอและพิจารณาในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา
                              ในกรณีที่สมาชิกวุฒิสภาเห็นว่าร่างพระราชบัญญัติใดที่คณะรัฐมนตรีมิได้แจ้ง
          ว่าเป็นร่างพระราชบัญญัติที่จะตราขึ้นเพื่อดำาเนินการตามหมวด 16 การปฏิรูปประเทศ สมาชิกวุฒิสภา
          จำานวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของแต่ละสภา อาจเข้าชื่อกันร้องขอต่อประธานรัฐสภาเพื่อให้วินิจฉัยการยื่นคำาร้อง
          ดังกล่าวต้องยื่นก่อนที่สภาผู้แทนราษฎรหรือวุฒิสภาแล้วแต่กรณี จะพิจารณาร่างพระราชบัญญัตินั้น
          แล้วเสร็จ
                   2.3.2.10 อำานาจในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญของสมาชิกวุฒิสภา

                             การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่เป็นการเปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบ
          ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเปลี่ยนแปลงรูปแบบของรัฐ จะกระทำามิได้
          (มาตรา 255) สำาหรับหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญถูกกำาหนดไว้ในมาตรา 256(1) ให้อำานาจ
          ในการเสนอญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมต้องมาจากคณะรัฐมนตรี หรือจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และ
          สมาชิกวุฒิสภาจำานวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของจำานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา
          สมาชิกวุฒิสภาจึงมีส่วนสำาคัญในการพิจารณาให้ความเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบในการแก้ไขเพิ่มเติม
          รัฐธรรมนูญโดยเฉพาะการลงมติในวาระที่หนึ่ง และในวาระที่สาม ของการแก้ไข ดังนี้

                       การออกเสียงลงคะแนนในวาระที่หนึ่งขั้นรับหลักการ ต้องมีสมาชิกวุฒิสภา
          เห็นชอบด้วยไม่น้อยกว่าหนึ่งในสามของจำานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของวุฒิสภา (มาตรา 256 (3))
                       การออกเสียงลงคะแนนในวาระที่สามขั้นสุดท้าย สมาชิกวุฒิสภาเห็นชอบด้วย
          ไม่น้อยกว่าหนึ่งในสามของจำานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของวุฒิสภา (มาตรา 256 (6))
                       ก่อนนายกรัฐมนตรีนำาความกราบบังคมทูลเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยตาม (7)
          สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือสมาชิกวุฒิสภา หรือสมาชิกทั้งสองสภารวมกัน มีจำานวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสิบ
          ของสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของแต่ละสภา หรือของทั้งสองสภารวมกัน แล้วแต่กรณี มีสิทธิเข้าชื่อกัน
          เสนอความเห็นต่อประธานแห่งสภาที่ตนเป็นสมาชิกหรือประธานรัฐสภา แล้วแต่กรณี ว่าร่างรัฐธรรมนูญ
          ตาม (7) ขัดต่อมาตรา 255 หรือมีลักษณะตาม (8) และให้ประธานแห่งสภาที่ได้รับเรื่องดังกล่าวส่งความเห็น

          ไปยังศาลรัฐธรรมนูญ (มาตรา 256 (9))




           38
   47   48   49   50   51   52   53   54   55   56   57