Page 54 - kpiebook66022
P. 54
สถาบันพระปกเกล้า
King Prajadhipok’s Institute
8) การปรึกษาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญหรือร่างพระราชบัญญัติใหม่
ตามมาตรา 146
9) การพิจารณาให้ความเห็นชอบตามที่คณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่ภายหลัง
การเลือกตั้งทั่วไปร้องขอให้พิจารณาบรรดาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมหรือร่างพระราชบัญญัติที่รัฐสภา
ยังมิได้ให้ความเห็นชอบตามมาตรา 147
10) การตราข้อบังคับการประชุมรัฐสภาตามมาตรา 157
11) การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญตามมาตรา 256
12) กรณีผู้นำาฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรขอให้มีการเปิดอภิปรายทั่วไป
ในที่ประชุมรัฐสภาตามมาตรา 155
13) การแถลงนโยบายต่อรัฐสภาของคณะรัฐมนตรีตามมาตรา 162
14) กรณีคณะรัฐมนตรีขอให้มีการเปิดอภิปรายทั่วไปในที่ประชุมร่วมกัน
ของรัฐสภาตามมาตรา 165
15) การให้ความเห็นชอบในการประกาศสงครามตามมาตรา 177
16) การรับฟังคำาชี้แจงและการให้ความเห็นชอบหนังสือสัญญาตามมาตรา 178
2.3.3.2 กรณีอื่นตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ เช่น กรณีตามบทเฉพาะกาล
1) การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติที่จะตราขึ้นเพื่อดำาเนินการตามหมวด 16
การปฏิรูปประเทศตามมาตรา 270 วรรคสอง กล่าวคือ ร่างพระราชบัญญัติที่จะตราขึ้นเพื่อดำาเนินการ
ตามหมวด 16 การปฏิรูปประเทศ ให้เสนอและพิจารณาในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา
2) การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติที่วุฒิสภาหรือสภาผู้แทนราษฎรยับยั้งไว้
ตามมาตรา 271 กล่าวคือในวาระเริ่มแรกภายในห้าปีนับแต่วันที่มีพระบรมราชโองการแต่งตั้งของวุฒิสภา
จำานวนสองร้อยห้าสิบคนการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติที่วุฒิสภาหรือสภาผู้แทนราษฎรยับยั้งไว้
ตามมาตรา 137 (2) หรือ (3) ให้กระทำาโดยที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา ถ้าร่างพระราชบัญญัตินั้นเกี่ยวกับ
(1) การแก้ไขเพิ่มเติมโทษหรือองค์ประกอบความผิดต่อตำาแหน่งหน้าที่ราชการหรือต่อตำาแหน่งหน้าที่
ในการยุติธรรม หรือความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ เฉพาะเมื่อการแก้ไขเพิ่มเติมนั้น
มีผลให้ผู้กระทำาความผิดพ้นจากความผิดหรือไม่ต้องรับโทษ (2) ร่างพระราชบัญญัติที่วุฒิสภามีมติ
ด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของจำานวนสมาชิกวุฒิสภาทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ว่ามีผลกระทบต่อ
การดำาเนินกระบวนการยุติธรรมอย่างร้ายแรงมติของที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาที่ให้ความเห็นชอบ
ร่างพระราชบัญญัตินั้น ต้องมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของจำานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่
ของรัฐสภา
3) การพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายก
รัฐมนตรีตามมาตรา 272 กล่าวคือ ในระหว่างห้าปีแรกนับแต่วันที่มีรัฐสภาชุดแรกตามรัฐธรรมนูญนี้ คือ
เมื่อมีการประกาศผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามจำานวนที่สามารถเปิดประชุมรัฐสภาได้ และ
40