Page 46 - kpiebook66022
P. 46

สถาบันพระปกเกล้า
             King Prajadhipok’s Institute

               2.3.1  อำานาจหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎร
                    2.3.1.1 อำานาจหน้าที่ด้านนิติบัญญัติ
                            รัฐธรรมนูญกำาหนดอำานาจให้แก่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในการพิจารณา
          ออกกฎหมายในความหมายของรัฐธรรมนูญ กล่าวคือ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ พระราชบัญญัติ
          และ พระราชกำาหนด รายละเอียดในการพิจารณาร่างกฎหมายต่าง ๆ แต่ละประเภท ดังนี้
                       (1)   การเสนอร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ

                       (2)   การเสนอและพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ
                       (3)  การพิจารณาพระราชกำาหนด
                  2.3.1.2 อำานาจหน้าที่ควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน
                            อำานาจหน้าที่ในการควบคุมการบริหารราชการแผ่นของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
          แบ่งแยกได้หลายกรณี ดังนี้
                            (1)   การตั้งกระทู้ถามรัฐมนตรีในเรื่องใดเกี่ยวกับงานในหน้าที่ (มาตรา 150)
                            (2)   การเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี
          เป็นรายบุคคลหรือทั้งคณะ (มาตรา 151) โดยต้องมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำานวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้า
          ของจำานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร

                            (3)   การเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอ
          แนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี โดยไม่มีการลงมติก็ได้ (มาตรา 152) ต้องมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
          จำานวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสิบของจำานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎรเข้าชื่อร่วมกัน
                            (4)   การตรวจสอบในกรณีผู้นำาฝ่ายค้านขอเปิดอภิปรายทั่วไปในกรณีที่มีปัญหา
          สำาคัญเกี่ยวกับความมั่นคงปลอดภัยหรือเศรษฐกิจของประเทศสมควรที่จะปรึกษาหารือร่วมกันระหว่าง
          รัฐสภาและคณะรัฐมนตรี ในกรณีนี้ ประธานรัฐสภาต้องดำาเนินการให้มีการประชุมภายในสิบห้าวัน
          นับแต่วันที่ได้รับการแจ้ง แต่รัฐสภาจะลงมติในปัญหาที่อภิปรายมิได้ (มาตรา 155)

                            (5)   การตรวจสอบสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรคนใดคนหนึ่ง
          แห่งสภานั้น สิ้นสุดตามมาตรา 101 (3) (5) (6) (7) (8) (9) (10) หรือ (12) หรือมาตรา 111 (3) (4) (5) หรือ (7)
          แล้วแต่กรณี (มาตรา 82)
                            (6)   การเข้าชื่อกล่าวหาว่ากรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติผู้ใด
          กระทำาการตามมาตรา 234 (1) โดยยื่นต่อประธานรัฐสภาพร้อมด้วยหลักฐานตามสมควร หากประธานรัฐสภา
          เห็นว่ามีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการกระทำาตามที่ถูกกล่าวหา ให้ประธานรัฐสภาเสนอเรื่องไปยังประธานศาลฎีกา
          เพื่อตั้งคณะผู้ไต่สวนอิสระจากผู้ซึ่งมีความเป็นกลางทางการเมืองและมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์
          เพื่อไต่สวนหาข้อเท็จจริง (มาตรา 236)
                            (7)   การตรวจสอบ ในกรณีที่รัฐมนตรีต้องรับผิดชอบต่อสภาผู้แทนราษฎรในเรื่อง

          ที่อยู่ในหน้าที่และอำานาจของตน รวมทั้งต้องรับผิดชอบร่วมกันต่อรัฐสภาในการกำาหนดนโยบายและ
          การดำาเนินการตามนโยบายของคณะรัฐมนตรี (มาตรา 164) ดังนั้น ในกรณีที่คณะรัฐมนตรีขอความคิดเห็น


           32
   41   42   43   44   45   46   47   48   49   50   51