Page 163 - kpiebook66022
P. 163
การประเมินผลการดำาเนินงานของรัฐสภา
โดยใช้เกณฑ์และตัวชี้วัดของ Inter-Parliamentary Union (IPU)
ความคิดเห็นต่อกรรมาธิการ ข้อมูลส่วนใหญ่มองว่าเป็นการร้องทุกข์เชิงประเด็น ซึ่งแตกต่างจาก
การร้องทุกข์กับสมาชิก และเป็นการดำาเนินการที่ยากกว่า ประชาชนเข้าถึงได้น้อย และกลไกการร้องทุกข์
ในระดับจังหวัดหรืออำาเภอ ประชาชนต้องร้องทุกข์ไปยังส่วนกลางเพียงอย่างเดียว ด้านการดึงดูดให้
เยาวชนสนใจงานของรัฐสภา (T8) ได้คะแนน 2.45 ส่วนใหญ่มองว่าในปัจจุบันนี้ เด็กและเยาวชน
คนรุ่นใหม่สนใจการเมืองมากขึ้น แต่รัฐสภาเองอาจไม่ได้ดึงดูดให้เยาวชนมาสนใจงานรัฐสภาได้มากนัก
เพราะความสนใจมาจากปัจจัยความตื่นตัวภายนอก มิได้มาจากการดำาเนินงานของรัฐสภา ในด้านความ
โปร่งใสและปลอดอิทธิพลของนักธุรกิจและกลุ่มผลประโยชน์ (T7) ได้คะแนน 2.29 ส่วนใหญ่มองว่า
มีน้อยถึงน้อยที่สุด และมีตัวอย่างมากมายที่แสดงให้เห็นว่าสมาชิกรัฐสภา รวมทั้งรัฐบาลอยู่ภายใต้อิทธิพล
ของนักธุรกิจ อีกทั้งการตรวจสอบจริยธรรมของสมาชิกรัฐสภาก็ไม่มีประสิทธิภาพ และสมาชิกรัฐสภา
มีจิตสำานึกต่อส่วนรวมน้อย และด้านที่ได้คะแนนน้อยที่สุดคือ โอกาสในการมีส่วนร่วมเสนอข้อมูลและ
ความคิดเห็นในการพัฒนาและแก้ไขกฎหมาย (T6) ได้คะแนน 2.09 กลุ่มตัวอย่างมองว่าประชาชน
มีโอกาสในการมีส่วนร่วมเสนอข้อมูลและความคิดเห็นในการพัฒนาและแก้ไขกฎหมายน้อยมากถึงน้อยที่สุด
การจะไปนำาเสนอข้อมูลหรือความคิดเห็นได้ส่วนใหญ่ต้องอยู่ในชั้นกรรมาธิการ และทำาได้ยาก แม้ดูเหมือนว่า
รัฐสภาจะเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการออกกฎหมาย แต่ในข้อเท็จจริงนั้นแทบไม่ได้เปิดโอกาส
ให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมได้ ช่องทางการติดต่อที่มีหลากหลายช่องทาง ก็ยังขาดการเชื่อมโยงการเข้าถึง
ของประชาชนหรือภาคส่วนต่าง ๆ ที่มีส่วนได้เสียอย่างมีประสิทธิภาพ
5.1.3.5 ผลการประเมินการดำาเนินงานของรัฐสภาในด้านความสำานึกรับผิดชอบของ
รัฐสภา
การประเมินผลการดำาเนินงานของรัฐสภาด้านความสำานึกรับผิดชอบของรัฐสภานั้น
จำาแนกออกเป็น 5 ด้าน ได้แก่ ความสำานึกรับผิดชอบของรัฐสภาต่อประชาชนทั่วไป (A1) ระบบรายงาน
ตรวจสอบและลงโทษสมาชิกรัฐสภา กรณีมีพฤติกรรมผิดจริยธรรมหรือเข้าข่ายประโยชน์ทับซ้อน (A2)
ระบบการตรวจสอบให้เงินอุดหนุนพรรคการเมืองของ กกต. (A3) การสร้างความเชื่อมั่น ศรัทธาของ
ประชาชนที่มีต่อรัฐสภา (A4) การพัฒนาการเรียนรู้ และเสริมสร้างขีดความสามารถของสมาชิกรัฐสภา (A5)
โดยผลการประเมินการดำาเนินงานของรัฐสภาโดยภาพรวมในด้านความความสำานึก
รับผิดชอบของรัฐสภา พบว่าอยู่ในระดับ “ปานกลาง” โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 2.55 โดยองค์ประกอบย่อย
ที่ได้รับคะแนนสูงสุดคือ การพัฒนาการเรียนรู้ และเสริมสร้างขีดความสามารถของสมาชิกรัฐสภา
(A5) ได้คะนน 2.73 โดยพบว่า มีกิจกรรมการพัฒนาการเรียนรู้สมาชิกรัฐสภามาก เช่น การศึกษาดูงาน
การอบรมต่าง ๆ แต่การศึกษาดูงานนั้น เห็นว่าเน้นไปเที่ยวมากกว่าไปศึกษาดูงานจริง และมีการพัฒนาน้อย
รองลงมาคือระบบรายงานตรวจสอบและลงโทษสมาชิกรัฐสภา กรณีมีพฤติกรรมผิดจริยธรรมหรือ
เข้าข่ายประโยชน์ทับซ้อน (A2) คะแนนเฉลี่ย 2.48 กลุ่มตัวอย่างเห็นว่า มีการดำาเนินการล่าช้าหากเป็น
เรื่องที่ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ประชาชนสนใจก็จะมีการลงโทษไม่หนักมาก และในหลายเรื่องๆ ก็มีผลประโยชน์
ทับซ้อนด้วย สมาชิกยังไม่มีจิตสำานึกในฐานะผู้แทนปวงชนชาวไทย และเรื่องที่เป็นประเด็นในความสนใจ
ในช่วงเวลาของการวิจัยนี้ คือเรื่องการขาดประชุมสภา การฝากลงชื่อแทนกัน รวมถึงการเล่นเกม
149