Page 165 - kpiebook66022
P. 165
การประเมินผลการดำาเนินงานของรัฐสภา
โดยใช้เกณฑ์และตัวชี้วัดของ Inter-Parliamentary Union (IPU)
ไม่ทราบว่ารัฐสภามีส่วนริเริ่มในการกำาหนดนโยบายต่างประเทศ อีกทั้งประชาชนไม่สามารถเข้าไปมีส่วนร่วม
ในการเสนอนโยบายหรือกฎหมายด้านต่างประเทศ เพราะนโยบายต่างประเทศถูกมองว่าเป็นเรื่องเฉพาะ
ของฝ่ายบริหารเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีความคิดเห็นว่ารัฐสภาไทยมีส่วนร่วมน้อยมากในเวทีโลก
สนใจแต่ปัญหาระดับท้องถิ่นมากกว่าปัญหาระดับประเทศหรือระดับโลก แสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอ
ของรัฐสภาในเวทีต่างประเทศ ดังนั้น ต้องทบทวนบทบาทของรัฐสภาในเวทีโลกให้มากขึ้น ในด้านการมีส่วนร่วม
ในการสร้างพันธะด้านกฎหมายและการเงินระหว่างประเทศ (I2) มีคะแนนเฉลี่ย 3.00 กลุ่มตัวอย่างมีประเด็น
ที่น่าสนใจเรื่องของ การตรวจสอบและติดตามการสร้างพันธะด้านกฎหมายและการเงินระหว่างประเทศ
ของรัฐบาลที่รัฐสภาควรมีบทบาทและให้ความสำาคัญในเรื่องนี้มากขึ้น โดยเฉพาะนโยบายหรือมาตรการใด
ที่ได้ดำาเนินการไปแล้วนั้น จะต้องมีการรายงานผลให้ประชาชนทราบด้วย ในด้านการสร้างความร่วมมือ
ระหว่างรัฐสภาไทยและรัฐสภานานาชาติ (I5) คะแนนที่ 2.98 กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีข้อเสนอให้
รัฐสภามีความร่วมมือกับรัฐสภานานาชาติทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลกเพื่อแสดงท่าทีของประเทศไทย
ในเวทีโลก รวมทั้งการทำาหน้าที่เชิงการทูตรัฐสภา เช่น การปฏิบัติตามธรรมเนียมปฏิบัติ กฎ ระเบียบ
ขององค์การรัฐสภาต่างประเทศ การประชุมรัฐสภาระหว่างประเทศ ความร่วมมือด้านประชาธิปไตย
สิทธิมนุษยชน แรงงานระหว่างประเทศ ตลอดจนการทำางานร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านในเชิงระหว่าง
ประเทศให้มีประสิทธิผลมากขึ้น ด้านการได้มาซึ่งข้อมูลและการมีส่วนร่วมในนโยบายระหว่างประเทศ
ระดับทวิภาคีและพหุภาคี (I1) เฉลี่ยที่ 2.96 ความเห็นที่ไม่ค่อยสะท้อนด้านการมีส่วนร่วมในนโยบาย
ระหว่างประเทศเท่าใดนัก เนื่องจากเป็นเรื่องที่ไกลตัวผู้เข้าร่วมเวทีและเป็นเพียงการให้ข้อคิดเห็น
ในมุมมองส่วนตัวหรือสะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้นเท่านั้น ด้านบทบาทของรัฐสภาในการติดตามและ
ตรวจสอบนโยบายและการปฏิบัติตามพันธะหรือข้อตกลงด้านความช่วยเหลือของประเทศ (I3)
คะแนนเฉลี่ย 2.90 กลุ่มตัวอย่างเห็นว่า การดำาเนินการของรัฐสภาในประเด็นการตรวจสอบนโยบาย
อาจไม่ได้มีมาตรการที่เห็นได้ชัดเจนนัก เนื่องจากมีการตรวจสอบน้อยมาก อีกทั้งไม่มีการคัดค้าน
นโยบายต่างประเทศของฝ่ายบริหารด้วย ในด้านบทบาทของรัฐสภาในการส่งเสริมการแก้ไขปัญหา
ความขัดแย้งภายในประเทศและต่างประเทศ (I4) คะแนน 2.88 โดยส่วนใหญ่มีความเห็นไปในทิศทาง
เดียวกันว่ารัฐสภาควรเข้าใจปัญหาและเชื่อมโยงถึงผลกระทบระหว่างประเทศที่จะเกิดขึ้นประเทศไทย
เช่น ข้อขัดแย้งเรื่องอาณาบริเวณดินแดนหรือพื้นที่พิพาทระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน เป็นต้น และ
องค์ประกอบย่อยที่ได้คะแนนน้อยที่สุดในด้านนี้คือ การสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนด้านนโยบาย
ระหว่างประเทศ (I7) มีคะแนนที่ 2.68 กลุ่มตัวอย่างเห็นว่าแม้รัฐบาลจะประสบปัญหาเรื่องนโยบาย
ต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศที่มีพรมแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน แต่ประชาชนไม่มีช่องทาง
ในการสื่อสารความเห็นดังกล่าวผ่านรัฐสภาไปถึงรัฐบาล และรัฐสภาให้ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วม
ในนโยบายต่างประเทศน้อยมากและนโยบายต่างประเทศบางอย่างไม่ได้ประกาศให้ประชาชนรับรู้ ทำาให้
รัฐสภาและประชาชนเองไม่สามารถตรวจสอบได้รวมทั้งไม่เกิด การถ่วงดุลอำานาจระหว่างรัฐบาลและ
รัฐสภา
151