Page 167 - kpiebook66022
P. 167

การประเมินผลการดำาเนินงานของรัฐสภา
                                                  โดยใช้เกณฑ์และตัวชี้วัดของ Inter-Parliamentary Union (IPU)
                          รัฐสภาควรต้องร่วมกับฝ่ายบริหารเพื่อจัดทำาแผนให้ชัดเจนว่าต้องการพัฒนาด้านใด

            เป็นการเฉพาะ ต้องมีการแยกโครงการและงบประมาณให้ชัดเจน มีการชี้แจงรายละเอียด ให้ประชาชน
            รับรู้ เช่น การถ่ายทอดสดเกี่ยวกับการอภิปรายเรื่องงบประมาณ
                          ควรกำาหนดกฎหมายและมาตรการที่ชัดเจนไปสู่หน่วยงานระดับปฏิบัติการ รวมทั้ง
            ตรวจสอบและติดตามการบริหารงบประมาณแผ่นดิน รวมไปถึงการประเมินผลการใช้งบประมาณ
            อย่างต่อเนื่อง
                          ประธานสภาและสมาชิกสภาควรมีอำานาจในการแต่งตั้งบุคคลเข้าไปทำาหน้าที่

            ในองค์กรอิสระ และจะต้องมีกระบวนการที่ชัดเจน โปร่งใสและการรับฟังความเห็นจากประชาชน
                          ควรให้มีการอภิปรายตรวจสอบเป็นการสาธารณะ รวมทั้งเสนอให้มีการแก้กฎหมาย
            เพื่อให้รัฐสภามีอำานาจในการตรวจสอบการทำาหน้าที่ของฝ่ายบริหารและองค์กรอิสระได้มากขึ้น
                          ควรให้มีการกำาหนดสัดส่วนของประชาชนในการเข้าไปมีส่วนร่วมในการตรวจสอบ
            การทำางานของฝ่ายบริหาร และต้องเป็นประชาชนในพื้นที่ในกรณีที่เกี่ยวกับการพัฒนาหรือการแก้ไข
            ปัญหาต่าง ๆ ของพื้นที่
                          ควรมีการแก้ไขระเบียบเกี่ยวกับที่มาของผู้ช่วยดำาเนินงาน ส.ส. และผู้เชี่ยวชาญ
            ประจำาตัว ส.ส. เช่น กำาหนดหลักเกณฑ์ คุณสมบัติ ประสบการณ์การทำางานให้ชัดเจนและพิจารณา
            ความเหมาะสมตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน  รวมถึงการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินด้วยเช่นเดียวกันกับ

            ส.ส. รวมทั้งการประกาศให้เป็นสาธารณะ
                          ผู้ช่วยดำาเนินงาน ส.ส. ผู้เชี่ยวชาญประจำาตัว ส.ส. จะต้องมีความรู้และเข้าใจปัญหาท้องถิ่น
            ทั้งนี้ พรรคการเมืองแต่ละพรรคการเมืองอาจจะต้องทำาบัญชีรายชื่อของผู้ช่วยดำาเนินงานและผู้เชี่ยวชาญ
            และคัดเลือกจากบัญชีรายชื่อผู้ช่วยดำาเนินงาน ส.ส. และผู้เชี่ยวชาญประจำาตัว ส.ส. จากบัญชีนั้น
                 5.2.4  ข้อเสนอแนะด้านความโปร่งใสและการเข้าถึงได้ของรัฐสภา
                          ควรปรับเปลี่ยนแนวคิดในการนำาเสนอข้อมูลของรัฐสภาและกรรมาธิการต่อประชาชน
            ให้มีการย่อยข้อมูลที่ทำาให้เข้าใจได้ง่าย
                          รัฐสภาควรสร้างความรู้ความเข้าใจในเรื่องข้อมูลของรัฐสภาเบื้องต้นให้แก่สาธารณะ

                          ในการนำาเสนอข้อมูลโดยสื่อของรัฐสภา ควรปรับเปลี่ยนให้มีการนำาเสนอที่เข้าใจง่าย
            และน่าสนใจ เช่น การนำาเสนอผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ หรือควรให้มีงบประมาณหรือเงินอุดหนุน
            เพื่อนำาเสนอข้อมูลที่เข้าใจง่าย เช่น การทำาหนังสั้น
                          ควรมีการขยายการนำาเสนอข่าวรัฐสภาไปยังสื่อท้องถิ่นให้มากขึ้นด้วย เพราะ
            ในต่างจังหวัด สื่อของรัฐสภาอาจจะยังเข้าถึงได้ไม่มากนัก
                          ให้มีตัวแทนรัฐสภาประจำาจังหวัด และให้ผู้ช่วยดำาเนินงาน ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ชำานาญการ
            ของ ส.ส. และ ส.ว. มารับเรื่องร้องเรียน ร้องทุกข์ และควรให้มีช่องทางที่สามารถติดตามเรื่องร้องเรียน
            ต่าง ๆ ได้
                          ควรมีการเปิดพื้นที่ เปิดโอกาสให้เยาวชนได้แสดงความคิดเห็นมากยิ่งขึ้น



                                                                                  153
   162   163   164   165   166   167   168   169   170   171   172