Page 157 - kpiebook66022
P. 157
การประเมินผลการดำาเนินงานของรัฐสภา
โดยใช้เกณฑ์และตัวชี้วัดของ Inter-Parliamentary Union (IPU)
บทที่ 5
สรุปผลการศึกษา และข้อเสนอแนะ
5.1 สรุปผลการศึกษา
5.1.1 เกณฑ์และตัวชี้วัดประสิทธิผลและประสิทธิภาพการปฏิบัติตามอำานาจหน้าที่ของรัฐสภา
คณะผู้วิจัยได้ปรับปรุงเครื่องมือวิจัยจากแบบสอบถามในงานวิจัย เรื่อง สถาบันการเมืองกับ
การพัฒนาประชาธิปไตย : ศึกษากรณีการดำาเนินงานของรัฐสภาตามเกณฑ์และตัวชี้วัดของสหภาพรัฐสภา
(IPU) ที่ โดยได้เพิ่มได้มีการปรับปรุงแบบสอบถามให้สอดคล้องกับกลไกการดำาเนินงานของรัฐสภา
ที่กำาหนดไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ในส่วนที่เกี่ยวกับการได้มาซึ่งสมาชิก
รัฐสภา ซึ่งกำาหนดให้มีรัฐสภาประกอบด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้ง และสมาชิก
วุฒิสภาที่มาจากการสรรหาตามกระบวนการที่กำาหนดไว้ในบทเฉพาะกาล และกระบวนการที่เกี่ยวข้อง
กับการตรากฎหมายที่กำาหนดแนวนโยบายของการมีกฎหมายไว้ในรัฐธรรมนูญมาตรา 77 และบทบาทที่
เพิ่มขึ้นของวุฒิสภาในการติดตามการปฏิรูปประเทศ โดยแบบสอบถามที่พัฒนาขึ้น แบ่งออกเป็นสองส่วน
ส่วนแรก เป็นข้อมูลพื้นฐานของผู้ตอบแบบสอบถาม ได้แก่ เพศ อายุ การศึกษา อาชีพ จำานวน 4 ข้อ ส่วนที่สอง
เป็นแบบสอบถามการดำาเนินงานของรัฐสภา 6 ด้าน โดยมีองค์ประกอบย่อยรวมทั้งสิ้น 34 องค์ประกอบย่อย
ประกอบด้วยคำาถามรวมทั้งสิ้น 89 ข้อ
5.1.2 สรุปผลการประเมินการดำาเนินงานของรัฐสภาในภาพรวม
ผลการประเมินการดำาเนินงานของรัฐสภาในครั้งนี้ เป็นผลที่ได้จากการนำาตัวชี้วัด
ประสิทธิผลและประสิทธิภาพการปฏิบัติตามอำานาจหน้าที่ของรัฐสภาไทย ที่สถาบันพระปกเกล้าพัฒนาขึ้น
ไปใช้ทดลองประเมินจริงกับทุกภาคส่วนทั่วประเทศ โดยขอบเขตการประเมิน ในครั้งนี้ คือประเมิน
รัฐสภาที่ได้มาจากกระบวนการตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ในช่วงเวลา
ได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภาและได้มาซึ่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นับตั้งแต่มีนาคม 2562 จนถึงกันยายน 2565
โดยจากการเก็บข้อมูลระหว่างพฤษภาคม - กันยายน 2565 โดยใช้แบบสอบถามที่คณะผู้วิจัยได้พัฒนา
ให้มีความครอบคลุมอำานาจหน้าที่รัฐสภาไทยที่ดำาเนินการโดยรัฐสภา ทำาให้ได้ข้อมูลทั้งเชิงปริมาณจาก
การตอบแบบสอบถามของผู้เข้าร่วมประชุม และข้อมูลเชิงคุณภาพจากการสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
ในการประชุมกลุ่ม โดยผู้ประเมิน ได้แก่ ผู้แทนภาคส่วนต่าง ๆ ที่มีความรู้ความเข้าใจในระบบรัฐสภาไทย
ใน 4 จังหวัดทุกภูมิภาค ได้แก่ NGOs ภาคประชาสังคม ภาคเอกชน สื่อมวลชน นักวิชาการ องค์กรอิสระ
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ข้าราชการระดับสูง ข้าราชการรัฐสภา และนักการเมือง ทั้งอดีตและปัจจุบัน
่
ทั้งนี้ คณะผู้วิจัยได้กำาหนดระดับการดำาเนินงานของรัฐสภา 5 ระดับ ดังนี้ คะแนน 0.00 - 1.00 ระดับตำามาก,
่
1.01 - 2.00 ระดับตำา, 2.01 - 3.00 ระดับปานกลาง, 3.01 - 4.00 ระดับสูง, 4.01 - 5.00 ระดับสูงมาก
โดยได้ผลดังนี้
143