Page 73 - kpiebook66004
P. 73

73



            เพิราะถึงที�สุดแล้ว เงื�อนไขพิื�นฐานที�สร้างความเป็นไปได้ในการจัดตั�งประชาธิ์ิปไตย แบับัคู่ปรับัอย่างความเท่าเทียมนั�น

            ก็ยังดูห่างไกลจากการเป็นค่านิยมทางการเมืองหลักของสังคมไทย นี�จึงอาจเป็นเหตุผลที�ช่วยอธิ์ิบัายว่าเหตุใด
            ประชาธิ์ิปไตยที�พิรรคอนาคตใหม่มุ่งนำเสนอจะเป็นแค่ “ประชาธิ์ิปไตยขั�น ต�ำ” ซึ�งไม่ได้มีองค์ประกอบัที�ก้าวหน้ามากมาย

            อะไรนัก เพิราะสำหรับัสังคมไทยแล้ว สิ�งที�สำคัญยิ�งกว่าความก้าวหน้าข้างต้น คือการยืนยันถึงความเท่าเทียมกัน
            ของประชาชนในฐานะหลักการขั�นพิื�นฐานของระบัอบัประชาธิ์ิปไตยที�ผู้เป็นเจ้าของอำนาจปกครองสูงสุดจะไม่ใช่ใครอื�น

            นอกจากประชาชน
                    ทั�งนี� หนึ�งในตัวอย่างที�สะท้อนความแตกต่างระหว่างทฤษฎีกับัการประยุกต์ในกรณีีข้างต้นได้ชัดเจนที�สุด

            ก็คือการนิยามถึงสิ�งที�เรียกว่าความเป็นการเมือง และความสอดคล้องระหว่างความเป็นการเมืองกับัตัวแบับั

            ประชาธิ์ิปไตยที�เหมาะสม กล่าวคือ ในขณีะที�ลาคลาวและมูฟจะพิิจารณีาความเป็นการเมืองว่าเกี�ยวข้องกับัการ
            สร้างอัตลักษณี์ทางการเมืองผ่านการดำรงอยู่ของปรปักษ์ร่วมพิรรคอนาคตใหม่กลับัมีแนวโน้มที�จะ พิิจารณีาความ

            เป็นการเมืองว่าเป็นเรื�องของความสัมพิันธิ์์ทางอำนาจและการตัดสินใจเชิงนโยบัายซึ�งพิัวพิันกับัชีวิตความเป็นอยู่
            ของประชาชนในทุก ๆ มิติ ดังที�ปิยบัุตรได้กล่าวเอาไว้ว่า




                        “ที�ผ่านมาความเป็นการเมืองถูกถอดออกไปจากสังคม (depoliticization) การเมืองถูกทำให้เป็น
                 เรื�องสกปรก น่ารังเกียจ เป็นเรื�องของความขัดแย้งรุนแรง การเมืองเป็นเรื�องน่าเบัื�อ การดีเบัตถกเถียงใน

                 ประเด็นสาธิ์ารณีะไม่หลงเหลืออีกเลย มีแต่เรื�องที�ผู้มีอำนาจข้าราชการ เทคโนแครตจัดมาให้แล้ว
                 นั�นหมายความว่าประชาชนหายไปจากการเมืองโดยสิ�นเชิง เราต้องฟ้�นประชาชนให้กลายเป็นองค์ประธิ์าน

                 ทางการเมืองขึ�นมาให้ได้ ให้ประชาชนกลับัมาคิดว่าการเมืองอยู่ในชีวิตประจำวันของเขา จึงต้องเข้ามามี

                 ส่วนร่วมทางการเมืองให้มาก” 217


                    ในแง่นี� จุดเน้นถึงประชาธิ์ิปไตยตามแบับัที�พิรรคอนาคตใหม่เสนอ จึงย่อมไม่ใช่การถ่วงดุลความขัดแย้ง

            ด้วยการแปลงปรปักษ์ให้กลายเป็นคู่แข่งดังที�มูฟเสนอ แต่คือการส่งเสริมการเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองของ

            ประชาชน ผ่านการเปิดพิื�นที�ให้มีการถกเถียงถึงประเด็นสาธิ์ารณีะต่าง ๆ โดยไม่ถูกผูกขาดอยู่ในกลุ่มของข้าราชการ
            และผู้เชี�ยวชาญไม่กี�คน

                   นั�นจึงไม่แปลกที�เมื�อพิิจารณีาจากแง่มุมดังที�ว่านี�แล้ว ประชาธิ์ิปไตยตามที�พิรรคอนาคตใหม่เน้นย�ำจะมี
            ลักษณีะเอนเอียงไปตามวิธิ์ีคิดแบับัเสรีนิยมซึ�งเป็นวิธิ์ีคิดที�มูฟวิพิากษ์วิจารณี์ เพิราะด้วยนิยามความเป็นการเมือง

            ของปิยบัุตรข้างต้น จะเห็นได้ว่าหัวใจสำคัญของประชาธิ์ิปไตยนั�นหาใช่การแปลงปรปักษ์ให้กลายเป็นคู่แข่งมาก
            เท่ากับัการเปิดพิื�นที�ให้พิลเมืองหรือประชาชนสามารถใช้เหตุผลถกเถียงถึงประเด็นสาธิ์ารณีะต่าง ๆ อย่างเท่าเทียม

            นี�จึงอาจไม่ได้เกินเลยไปนักหากจะกล่าวว่าในขณีะที�ข้อเสนอถึงตัวแบับัประชาธิ์ิปไตยของมูฟจะเป็นข้อเสนอที�

            ก้าวหน้าท้าทายวิธิ์ีคิดแบับัเสรีนิยมภายใต้บัริบัทของสังคมการเมืองตะวันตกที�ระบัอบัประชาธิ์ิปไตยตั�งมั�นเป็น
            ค่านิยมหลัก การนำเสนอประชาธิ์ิปไตยของพิรรคอนาคตใหม่กลับัมีลักษณีะแบับัเสรีนิยมเพิื�อยืนยันหลักพิื�นฐาน

            “ขั�นต�ำ” ของระบัอบัประชาธิ์ิปไตยเสียมากกว่า ทั�งการให้น�ำหนักไปกับัการเปิดพิื�นที�ทางการเมืองให้ประชาชน
            ใช้เหตุผลถกเถียงพิูดคุยถึงประเด็นสาธิ์ารณีะต่าง ๆ หรือการยืนยันถึงหลักนิติรัฐซึ�งจะช่วยประกันอำนาจซึ�งจะ

            ช่วยประกันอำนาจและความเท่าเทียมทางการเมืองของประชาชนโดยไม่มีใครเป็นข้อยกเว้นตลอดไป จนถึง



            217  ปิยบัุตร, “หนึ�งปีอนาคตใหม่: จากกรัมชี�—ลาคลาว—มูฟ—ถึงปฏิิบััติการท้านรกของปิยบัุตร แสงกนกกุล”,
   68   69   70   71   72   73   74   75   76   77   78