Page 58 - kpiebook66004
P. 58

58



                    แม้ว่าซิริซ่านั�นมีความพิยายามในการเป็นตัวแทนเสียงของประชาชนทุกกลุ่ม โดยการยกปัญหาของ

            ประชาชนทุกกลุ่มขึ�น โดยเฉพิาะกลุ่มรากหญ้า และมีนโยบัายเพิื�อทุกกลุ่ม ทำให้พิรรคซิริซ่าเป็นประชานิยมที�แตกต่าง
            คือเป็นประชานิยมแบับัรวบัรวม ไม่ใช่ผลักออก และยิ�งท่ามกลางวิกฤตเศูรษฐกิจ และการดำเนินการภายใต้

            อุดมการณี์ทางเศูรษฐกิจแบับัเสรีนิยมใหม่ การใช้เงื�อนไขที�ต่อต้านการดำเนินการทางเศูรษฐกิจของรัฐบัาลขณีะนั�น

            จึงเป็นยุทธิ์ศูาสตร์ที�ดีในการดึงความนิยมของตน ซิริซ่าจึงเป็นสัญลักษณี์ของพิรรคที�อยู่ตรงกันข้ามกับัสถาบััน
            ทางการเมืองและสถาบัันทางสังคมต่าง ๆ ที�ทำให้ประชาชนเสียผลประโยชน์ ซิริซ่าจึงประกาศูยืนอยู่ข้างประชาชน

            และการเคลื�อนไหวของประชาชน และบัอกว่าจะพิาประชาชนออกจากการเมืองแบับัเก่าสิ�งที�ซิริซ่าทำจึงเป็นการ
            สร้างแนวหน้าทางการเมืองระหว่างประชาชน ที�เป็นคู่ตรงข้ามกับัสถาบัันเหล่านั�น แต่ตัวซิริซ่าเองนั�นเป็นข้อยกเว้น

            เพิราะเป็นสถาบัันที�จะเข้าไปเปลี�ยนแปลง จึงเห็นได้ว่า ตัวของพิรรคหรือผู้นำที�เป็นประชานิยมเองนั�น จะเป็นข้อยกเว้น

            ของศูัตรูของประชาชนทั�งสิ�น ทั�ง ๆ ที�ตนเองนั�น ก็เป็นส่วนหนึ�งของ “สถาบััน” หรือ “ชนชั�นสูง” เหล่านั�น แต่เป็น
            สถาบัันหรือชนชั�นสูงที�มีศูีลธิ์รรมมากกว่า

                    ซิริซ่าจึงใช้ยุทธิ์ศูาสตร์นี� ในการรวบัรวมประชาชนเพิื�อเพิิ�มความนิยมและเข้าสู่อำนาจ พิยายามแสดงตน
            ว่าแตกต่างจากกลุ่มอำนาจเดิม เพิื�อสร้างพิลังทางการเมืองใหม่ ซึ�งซิริซ่านั�น ถือเป็นพิรรคการเมืองฝ่่ายซ้าย

            ที�ใช้ยุทธิ์ศูาสตร์ประชานิยมฝ่่ายซ้ายพิรรคแรก ๆ ในโลก ที�ประสบัความสำเร็จในการประยุกต์ใช้ทฤษฎี

            ของลาคลาวและมูฟ ให้เข้ากับัสถานการณี์จริง แม้จะไม่ได้กล่าวชัดเจนเหมือนกับักรณีีของโปเดมอสในสเปน
            ก็ตาม แต่วิธิ์ีการและจังหวะทางการเมืองของกรีซ เป็นบัริบัทและเงื�อนไขที�เหมาะสมและเอื�อให้ประชานิยมฝ่่ายซ้าย

            อย่างมาก อย่างไรก็ตาม แม้พิรรคซิริซ่าจะสามารถประสบัความสำเร็จในการชนะเลือกตั�ง และทำให้การเมือง

            ของกรีซเปลี�ยนภูมิทัศูน์จากการสลับัไปมาระหว่างซ้ายกลางและขวากลาง ทำให้การเมืองของกรีซที�อยู่ในยุค
            หลังการเมือง กลับัมามีความเป็นการเมืองอีกครั�ง โดยกระตุ้นให้ประชาชนนั�นตื�นตัวกับัการเมือง และเห็นว่าการ

            มีส่วนร่วมทางการเมืองนั�นสามารถเปลี�ยนแปลงได้ โดนการพิยายามดึงความนิยมของประชาชนผ่านยุทธิ์ศูาสตร์

            ประชานิยมฝ่่ายซ้าย
                    แต่ท้ายที�สุด ก่อนที�ซิริซ่าจะลงจากอำนาจ ข้อเท็จจริงกลับัปรากฏิว่า สังคมการเมืองของกรีซนั�นไม่ได้มี

            ความเปลี�ยนอย่างถอนรากถอนโคน หรือมีการเปลี�ยนแปลงในลักษณีะที�ประชาชนส่วนมากนั�นได้ผลประโยชน์คืน
            จากกลุ่ม 1% ดังที�ได้กล่าวมา นโยบัายรัดเข็มขัดยังหลงเหลืออยู่ ความเป็นเสรีนิยมใหม่ ที�ไม่ได้ถูกบัังคับักดดัน

            ให้ใช้เพิียงแต่ในประเทศู แต่องค์กรเหนือรัฐที�มีอิทธิ์ิพิลต่อกรีซ ก็ยังคงใช้อำนาจและอิทธิ์ิพิลทำให้กรีซยังต้อง

            ดำเนินการบัริหารตามแบับัของเสรีนิยมใหม่ต่อไป ยังไม่รวมถึงสถาบััยทางการเงินหรือองค์กรทางเศูรษฐกิจการค้า
            ที�ยังคงต้องใช้แนวทางแบับัเสรีนิยมใหม่ในการขับัเคลื�อน ด้วยประการทั�งปวง จึงแสดงให้เห็นว่าเพิียงการชนะเลือกตั�ง

            โดยพิรรคการเมืองที�เป็นตัวแทนเสียงของประชาชน และประกาศูจะทำตามนโยบัายเพิื�อประชาชนส่วนใหญ่นั�น
            ในทางปฏิิบััติยังไม่สามารถทำการเปลี�ยนแปลงได้ เนื�องจากการถืออำนาจรัฐไม่ได้หมายความว่าจะสามารถครอง

            อำนาจนำได้ เพิราะอำนาจรัฐไม่สามารถเข้าแทรกแซงได้ถึงทุกส่วนของสังคม และทำให้เกิดการเปลี�ยนแปลงได้

            โดยเฉพิาะอย่างยิ�งผลกระทบัจากปัจจัยภายนอก เช่น องค์กรเหนือรัฐต่าง ๆ ซึ�งอำนาจรัฐนั�นต่อรองได้ยาก
            การสามารถถืออำนาจรัฐได้ โดยการชนะเลือกตั�งก็ดี หรือยึดอำนาจรัฐได้ก็ดี จึงไม่ใช่การรับัรองความเปลี�ยนแปลง

            ที�จะเกิดขึ�นได้เสมอไป

                    ดังนั�น กรณีีซิริซ่าจึงแสดงให้เห็นว่า การขึ�นสู่อำนาจและการรักษาอำนาจนั�นต้องแยกออกจากกัน
            การใช้ยุทธิ์ศูาสตร์ประชานิยมฝ่่ายซ้ายนั�นสามารถทำให้พิรรคการเมืองได้รับัความนิยมจากการรวบัรวม
   53   54   55   56   57   58   59   60   61   62   63