Page 50 - kpiebook65055
P. 50
50 การศึกษาวิเคราะห์ร่างกฎหมายและกฎหมายที่เกี่ยวกับสิทธิในอากาศสะอาด
มีพระราชบัญญัติฉบับใหม่มีความเฉพาะเจาะจงในเรื่องเกี่ยวกับภาวะมลพิษทางอากาศมากกว่า และ
พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 เป็นเพียงแค่กฎหมายทั่วไป
ที่วางกรอบในเชิงหลักการเท่านั้น ก็ควรจะต้องพิจารณาว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถออกกฎหมาย
ล�าดับรอง ก�าหนดรายละเอียดเพื่อให้เป็นไปตามความในกฎหมายระดับพระราชบัญญัติฉบับเดิมได้
เช่นเดียวกัน
3.3.2 สิทธิในการมีส่วนร่วมกับรัฐในการก�าหนดนโยบาย
และออกกฎหมายเกี่ยวกับภาวะมลพิษทางอากาศ
ประชาชนสามารถมีส่วนร่วมในการก�าหนดนโยบายและออกกฎหมายที่เกี่ยวกับภาวะมลพิษ
ทางอากาศ ตามมาตรา 57 (2) รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ที่บัญญัติว่า รัฐต้องอนุรักษ์
คุ้มครอง บ�ารุงรักษา ฟื้นฟู บริหารจัดการ และใช้หรือจัดให้มีการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ
สิ่งแวดล้อม และความหลากหลายทางชีวภาพ ให้เกิดประโยชน์อย่างสมดุลและยั่งยืน ทั้งนี้ “ต้องให้
ประชาชนและชุมชนในท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมด�าเนินการ… จากการด�าเนินการดังกล่าวด้วยตามที่
กฎหมายบัญญัติ” การมีส่วนร่วมดังกล่าว ต้องพิจารณาถึงกฎหมายเฉพาะด้วย นอกจากนั้น ในมาตรา 77
วรรคสอง ก�าหนดว่า “ก่อนการตรากฎหมายทุกฉบับ รัฐพึงจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของผู้เกี่ยวข้อง”
และให้รัฐน�าความคิดเห็นที่ได้ “มาประกอบการพิจารณาในกระบวนการตรากฎหมายทุกขั้นตอน” ซึ่งตาม
แนวปฏิบัติแล้วกฎหมายล�าดับรองทุกฉบับที่ออกโดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต้อง
รับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนก่อนประกาศใช้ต่อไป
ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการมีส่วนร่วมในการก�าหนดนโยบายนั้น มาตรา 65 วรรคสองบัญญัติว่า
“การจัดท�า การก�าหนดเป้าหมาย ระยะเวลาที่จะบรรลุเป้าหมาย และสาระที่พึงมีในยุทธศาสตร์ชาติ
ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กฎหมายบัญญัติ ทั้งนี้ กฎหมายดังกล่าวต้องมีบทบัญญัติเกี่ยวกับ
การมีส่วนร่วมและการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนทุกภาคส่วนอย่างทั่วถึงด้วย”
3.3.3 สิทธิที่จะทราบข้อมูลเกี่ยวกับการอนุญาตโครงการ
สิทธิที่จะรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับการอนุญาตโครงการนั้น ได้รับการบัญญัติในรัฐธรรมนูญแห่ง
ราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 58 วรรค 1 ที่บัญญัติว่า “การด�าเนินการใดของรัฐหรือที่รัฐจะอนุญาต
ให้ผู้ใดด�าเนินการ ถ้าการนั้นอาจมีผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ คุณภาพสิ่งแวดล้อม สุขภาพ อนามัย
คุณภาพชีวิต หรือส่วนได้เสียส�าคัญอื่นใดของประชาชนหรือชุมชนหรือสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง รัฐต้อง
ด�าเนินการให้มีการศึกษา และประเมินผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน
หรือชุมชน และจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียและประชาชนและชุมชนที่เกี่ยวข้องก่อน
เพื่อน�ามาประกอบการพิจารณาด�าเนินการหรืออนุญาตตามที่กฎหมายบัญญัติ” การที่กฎหมายบัญญัติเช่นนี้