Page 179 - kpiebook65043
P. 179

สรุปการประชุมวิชาการ
                                                                               สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 23  1 9
                                                                                   ประชาธิปไตยในภูมิทัศน์ใหม่


             การถามความเห็น หรือการรับฟังประชาชน หรืออาจจะเป็นการพยายามสื่อสารกับประชาชน
             ในกรณีที่ไม่สามารถตัดสินใจในสิ่งที่ประชาชนให้ความเห็นมาได้

                   ทั้งนี้ ยิ่งชีพเห็นว่าท่ามกลางสภาวะความผันผวนทางการเมืองและสังคมที่เกิดขึ้น

             เมื่อองค์กรหลาย ๆ องค์กรมีที่มาที่ถูกตั้งคำถามเรื่องความเป็นอิสระ เช่น องค์กรอิสระที่ทำ
             หน้าที่ตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ หรือองค์กรตุลาการที่รัฐธรรมนูญให้อำนาจในการตรวจสอบ
             ฝ่ายการเมืองมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็ยิ่งต้องพิสูจน์ตนเองในเรื่ององค์ประกอบด้านเนื้อหา หรือกล่าว
             อีกนัยหนึ่งก็คือ จะต้องพิสูจน์ตนเองในเรื่องของการทำหน้าที่ให้เป็นกลาง และถูกต้องตาม
             หลักกฎหมาย ถ้าหากสถาบันทางการเมืองเหล่านี้สามารถพิสูจน์ตนเองในเรื่องการปฏิบัติหน้าที่

             ได้ท่ามกลางความผันผวนทางการเมืองนี้ ก็จะได้รับการยอมรับตามสมควรและทุกฝ่าย
             ก็อาจอยู่ร่วมกันได้ แต่ถ้าหากไม่สามารถพิสูจน์ตนเองได้ ก็อาจจะนำไปสู่ความขัดแย้งและ
             ความรุนแรงได้


                   เมื่อมองความชอบธรรมว่าประกอบด้วยสององค์ประกอบแล้ว อีกประเด็นที่ต้อง
             พิจารณาก็คือว่า อะไรเป็นสิ่งที่กำหนดความชอบธรรม ?

                   ในประเด็นนี้ วรรณภา ติระสังขะ ได้นำเสนอว่า “เสียงของประชาชน” จะเป็นเสียงที่
             กำหนดว่าอะไรเป็นสิ่งที่มีความชอบธรรม และการใช้เสียงประชาชนกำหนดความชอบธรรมนี้

             ไม่ใช่การกำหนดความชอบธรรมตามอำเภอใจของประชาชนแต่เพียงอย่างเดียว แต่เป็น
             การกำหนดความชอบธรรมตามเหตุและผล และตามคุณค่าความเชื่อของสังคมนั้น ๆ
             ซึ่งอาจจะเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย

                   ทั้งนี้ การกำหนดความชอบธรรมอย่างนี้อาจทำให้ต้องเผชิญกับปัญหาที่ว่าแต่ละคน

             กำหนดเรื่องความชอบธรรมแตกต่างกัน และอาจจะก่อให้เกิดความขัดแย้งในบางโอกาส
             แต่วรรณภาเชื่อว่าความขัดแย้งนี้จะขัดเกลาคนในสังคมให้นำไปสู่ฉันทามติหรือนำไปสู่
             ความชอบธรรมที่คนในสังคมเห็นพ้องต้องกันในที่สุด ซึ่งระหว่างทางที่เกิดความขัดแย้ง

             โดยอาจเกิดจากยุคสมัยที่ต่างกัน หรือความเห็นที่ต่างกัน และความขัดแย้งนั้นอาจก่อให้เกิด
             ความเจ็บปวดหรือการใช้ความรุนแรง แต่ก็อาจนำไปสู่การเรียนรู้ร่วมกันได้ ที่สำคัญ วรรณภา
             ได้เน้นย้ำว่า

                   “การปะทะสังสรรค์แบบนี้ (การปะทะกันของการให้ความหมายความชอบธรรม

             ที่แตกต่างกัน) ก็ก่อให้เกิดคุณค่าในแง่บวกมากกว่าแง่ลบ ท้ายที่สุดแล้วคนในสังคมจะเลือก
             หยิบยกเหตุผลคุณค่าความเชื่อมั่นว่าสิ่งนี้เราเห็นด้วย สิ่งนี้ไม่เห็นด้วย หรือสิ่งนี้ไม่มีความชอบธรรม
             ทางการเมืองอีกต่อไป หรือสิ่งไหนที่เราไม่ศรัทธาหรือไม่เห็นพ้องต้องกันอีกต่อไป ...
             กระบวนการเหล่านี้เป็นสิ่งที่เป็นปกติของเสรีนิยมประชาธิปไตยที่การกำหนดความชอบธรรม
             ทางการเมืองจะถูกถ่ายโอนไปสู่ประชาชนอย่างปฏิเสธไม่ได้...”                                  สรุปการประชุมกลุ่มย่อยที่ 2
                                                                   5

                 5   ความในวงเล็บเติมโดยผู้เรียบเรียง
   174   175   176   177   178   179   180   181   182   183   184