Page 204 - kpiebook65022
P. 204

สอดคล้องกับ DeSombre ที่ว่า รัฐบาลในการปกครองแบบประชาธิปไตยดูจะมีแนวโน้มทางสถิติด้าน
               สิ่งแวดล้อมที่ดีมากกว่า แต่ DeSombre ก็มีข้อสังเกตอีกเช่นกันว่า ไม่เสมอไปที่สิ่งแวดล้อมที่ดีจะเกิดใน

               ประเทศประชาธิปไตย เพราะ ประชาธิปไตยก็อาจท าให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่เชื่องช้า (DeSombre, 2020)
               คณะผู้วิจัยเองจึงวิเคราะห์ว่าข้อสรุปนี้ยังไม่อาจลงความเห็นได้ทันทีว่า สภาพแวดล้อมที่ดีจะปรากฎในประเทศ
               ที่มีโครงสร้างหรือระบอบการปกครองแบบใด เพราะงานวิจัยหลายชิ้นที่ส ารวจพบ ท าให้เห็นแนวโน้มว่า
               ประเทศที่มีการปกครองไปในทางอ านาจนิยมอย่างจีน มีงานวิจัยมากมายที่แสดงให้เห็นว่าการปกครองแบบ

               คอมมิวนิสต์จีนไม่ได้ละเลยต่อประเด็นสิ่งแวดล้อมเสียทีเดียว ระบอบการปกครองอาจเป็นเพียงส่วนหนึ่ง
               หากแต่การให้คุณค่าของรัฐบาลของแต่ละประเทศดูจะมีผลมากกว่า และการให้คุณค่าของผู้น าแต่ละรัฐบาลนั้น
               ก็ขึ้นอยู่กับการได้รับรู้ข้อมูลว่าทั่วโลกก าลังให้ความส าคัญกับอะไร อย่างประเทศจีนที่ได้เปิดรับแนวทาง
               การเมืองแบบมีส่วนร่วมเท่าที่ไม่ขัดต่อระบอบการปกครองมากนัก เพราะเล็งเห็นว่าเป็นทางที่ส าคัญที่จะท าให้

               นโยบายสิ่งแวดล้อมของจีนประสบความส าเร็จ สอดคล้องกับนักวิชาการบางท่านว่า รัฐจ าเป็นต้องรักษาความ
               สมดุลทางด้านสิ่งแวดล้อมให้เป็นรัฐที่ค านึงถึงระบบนิเวศวิทยา ภายใต้ระบบทุนนิยม (Blühdorn, 2020) ซึ่ง
               จีนได้แสดงให้เห็นถึงภาวะผู้น าที่ต้องการรับผิดชอบเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมากขึ้น เมื่อเข้า
               ร่วมในเวทีระหว่างประเทศ (Shen and Xie, 2018) ดังนั้น การให้ความส าคัญกับการด าเนินนโยบาย

               สิ่งแวดล้อมจึงน่าจะขึ้นอยู่กับการให้คุณค่าของรัฐบาล ซึ่งบางรัฐบาลยังล าดับความส าคัญไปที่การพัฒนา
               เศรษฐกิจมากกว่าการปกป้องสิ่งแวดล้อม (Kim and Chung, 2018)

                          จากงานวิจัยดังกล่าว มีความสอดคล้องกับนักวิชาการหลายท่านที่ว่าแม้ทั่วโลกให้ความส าคัญกับ
               ประเด็นสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาที่ยั่งยืน แต่ก็ยากจะบรรลุผล เพราะ ข้อตกลงระหว่างประเทศไม่ได้มีผลเชิง
               บังคับให้นานาประเทศต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด การเรียกร้องของแต่ละประเทศยังเป็นลักษณะผลักภาระ

               ให้ประเทศอื่น (บัณฑูร เศรษฐศิโรตม์, 2555, น.49) อีกทั้ง โครงสร้างทางการเมืองของแต่ละประเทศยังมีความ
               ทับซ้อนกันของตัวแสดง ที่ท าให้การตัดสินใจทางนโยบายสิ่งแวดล้อมของแต่ละประเทศในท้ายที่สุดอาจไม่
               เป็นไปตามนั้น (DeSombre, 2020, pp.122-123) การปกป้องทางสิ่งแวดล้อมมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น แต่เมื่ออยู่

               ในพื้นที่ของการค้าโลกประเด็นสิ่งแวดล้อมก็ถูกท าให้ด้อยค่าลงไป (Hochstetler, 2003) การปกป้อง
               สิ่งแวดล้อมถูกมองเป็นสิ่งจ าเป็นแต่ก็ยังเป็นข้อถกเถียงเมื่อถูกน าเสนอเข้าไปด้วยกันกับประเด็นการจ้างงาน
               หรือเศรษฐกิจ (Lawhon and McCreary, 2020)

                          การกระจายอ านาจกับการมีส่วนร่วม

                          จากข้อค้นพบในเชิงการเคลื่อนไหวจริง แสดงให้เห็นว่าโครงสร้างการปกครองในอดีตตั้งแต่ก่อน
               สมัยรัชกาลที่ 5 การปกครองไทยที่ยังคงเป็นแบบระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ แต่การบริหารจัดการ

               ทรัพยากรภาคส่วนต่าง ๆ ก็สามารถเข้าถึงได้ค่อนข้างเสรี เพียงแต่ตามหัวเมืองต่าง ๆ ต้องส่งเครื่องราช
               บรรณาการมายังส่วนกลาง โดยทรัพยากรเหล่านั้นจะถูกส่งไปค้าขายยังต่างประเทศต่อไป ต่อมาช่วงหลังสมัย
               รัชการที่ห้า ได้มีการจัดสรรทรัพยากรที่ส าคัญอย่างป่าไม้ชัดเจนมากขึ้น ดังเห็นได้จากการออกกฎหมาย
               พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 และพระราชบัญญัติคุ้มครองและสงวนสัตว์ป่า พ.ศ.2481 หรือในส่วน

               ทรัพยากรน้ า ก็เป็นการตัดสินใจและบริหารจัดการโดยผู้ปกครองที่ในสมัยรัชกาลที่ 5 พระบาทสมเด็จพระ
               จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเชิญชาวต่างประเทศเข้ามาวางโครงการชลประทาน และหน่วยงานของรัฐเป็น
               ผู้บริหารจัดการต่อ การตัดสินใจและบริหารจัดการทรัพยากรในสังคมไทยตั้งแต่ในอดีตจึงมีลักษณะรัฐ
               ส่วนกลางเป็นผู้ควบคุม ท าให้การกระจายอ านาจในการเข้าถึงทรัพยากรมีแค่เพียงคนบางกลุ่มเท่านั้น






                                                           191
   199   200   201   202   203   204   205   206   207   208   209