Page 58 - kpiebook65018
P. 58

57



                      “มาตรา 43 บุคคลและชุมชนย่อมมีสิทธิ
                      ...


                      (3)  เข้าชื่อกันเพื่อเสนอแนะต่อหน่วยงานของรัฐให้ด�าเนินการใดอันจะ
           เป็นประโยชน์ต่อประชาชนหรือชุมชน หรืองดเว้นการด�าเนินการใดอันจะกระทบ

           ต่อความเป็นอยู่อย่างสงบสุขของประชาชนหรือชุมชนและได้รับแจ้งผลการพิจารณา
           โดยรวดเร็ว ทั้งนี้ หน่วยงานของรัฐต้องพิจารณาข้อเสนอแนะนั้นโดยให้ประชาชน

           ที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมในการพิจารณาด้วยตามวิธีการที่กฎหมายบัญญัติ...”


                  เห็นได้ว่ามีการใช้ค�าว่า “ประชาชนหรือชุมชน” แทนค�าว่า “บุคคลหรือชุมชน”

           ตามที่เคยใช้ในวรรคแรกและวรรคท้าย และที่ใช้ในมาตรา 41 ดังนั้น ค�าว่า “ประชาชน”
           กับค�าว่า “ชุมชน” ย่อมต้องมีนัยส�าคัญที่แตกต่างกัน ในท�านองเดียวกัน สิทธิของบุคคล

                                                             37
           กับสิทธิของประชาชนย่อมอาจตีความได้แตกต่างกันไปด้วย  หรืออย่างบทบัญญัติ
           มาตรา 51 ที่บัญญัติว่า “การใดที่รัฐธรรมนูญบัญญัติให้เป็นหน้าที่ของรัฐตามหมวดนี้

           ถ้าการนั้นเป็นการท�าเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชำชนโดยตรง ย่อมเป็นสิทธิของ
           ประชำชนและชุมชนที่จะติดตามและเร่งรัดให้รัฐด�าเนินการ รวมตลอดทั้งฟ้องร้อง

           หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดให้ประชำชนหรือชุมชนได้รับประโยชน์นั้นตาม
           หลักเกณฑ์และวิธีการที่กฎหมายบัญญัติ” ก็เป็นการใช้ค�าว่า “ชุมชน” ควบคู่กับค�าว่า

           “ประชาชน” และไม่ได้ใช้ค�าว่า “บุคคลหรือชุมชน” อาจตีความได้อีกนัยหนึ่งว่า สิทธิ
           ตามมาตรา 51 เป็นสิทธิของคนส่วนใหญ่ (ประชาชน) มิใช่สิทธิของคนเพียงคนเดียว 38



           37   คนึงนิจ ศรีบัวเอี่ยม และคณะ, ควำมเชื่อมโยงระหว่ำงสิทธิชุมชนกับทรัพยำกรธรรมชำติและ
           สิ่งแวดล้อมภำยใต้รัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย พุทธศักรำช 2560, (กรุงเทพมหานคร :
           ส�านักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ, 2561), หน้า 148.
           38   เรื่องเดียวกัน, หน้า 148.
   53   54   55   56   57   58   59   60   61   62   63