Page 94 - kpiebook64014

รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ2 “บทบัญญัติทางกฎหมายเพื่อการป@องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำใหFบุคคลสูญหาย” สถาบันพระปกเกลFา

จะเห็นได;ว<า อนุสัญญา CED ระบุชัดเจนว<าคำว<า “เหยื่อ” ในความหมายเพื่อความมุ<งประสงค,แห<งอนุสัญญา

นี้ หมายถึงบุคคล 2 กลุ<ม คือ

(1) บุคคลที่ถูกกระทำให;สูญหาย

(2) บุคคลที่ได;รับความทุกข,ทรมานจากภัยอันเป_นผลโดยตรงจากการกระทำให;บุคคลสูญหาย

แม;ว<าบุคคลที่เกี่ยวข;องกับบุคคลที่ถูกกระทำให;สูญหายส<วนใหญ<มักเป_นครอบครัวหรือญาติของบุคคล

328
ดังกล<าว ไม<ว<าจะเป_นบิดามารดา สามีภรรยา พี่น;อง คู<หมั้น คู<ชีวิต ฯลฯ แต<ผู;ร<างฯ ได;เลือกที่จะใช;คำว<า “บุคคล
ที่ได;รับความทุกข,ทรมานจากภัยอันเป_นผลโดยตรงจากการกระทำให;บุคคลสูญหาย” ซึ่งมาจากคำภาษาอังกฤษว<า

“individual who has suffered harm as the direct result of an enforced disappearance” เพื่อทำให;ผู;

ตีความมีขอบเขตการใช;ดุลพินิจที่กว;างมากขึ้น โดยสามารถตีความคำดังกล<าวให;หมายความรวมไปถึงทนายความ
329
หรือนักปกปLองสิทธิมนุษยชน (Human Rights Defenders) ได;อีกด;วย หากพิสูจน,ได;ว<าบุคคลเหล<านั้นมีภัย
“อันเป_นผลโดยตรง” (Direct Result) จากการกระทำให;บุคคลสูญหาย ซึ่งการพิจารณาในประเด็นนี้ขึ้นอยู<กับ
ข;อเท็จจริงเป_นรายกรณีไป

ในการอธิบายการดำเนินการสำหรับเหยื่อการกระทำให;บุคคลสูญหายนั้น ผู;วิจัยจะแบ<งอธิบายตามประเภท
ของเหยื่อ ดังนี้

4.4.1 กรณีเหยื่อคือบุคคลที่ถูกกระทำให.สูญหาย

ในกรณีที่เหยื่อคือบุคคลที่ถูกกระทำให;สูญหาย วัตถุประสงค,หลักของการดำเนินการ คือ การค;นหาตัวบุคคล

ดังกล<าวเพื่อปล<อยตัวและนำบุคคลนั้นกลับเข;ามาสู<ภายใต;ความคุ;มครองของรัฐอีกครั้งหนึ่ง ดังนั้น อนุสัญญา CED
จึงกำหนดให;มีการดำเนินการเพื่อค;นหาตัวบุคคลที่ถูกกระทำให;สูญหายใน 2 ประเด็นหลัก คือ การดำเนินมาตรการ

ที่เหมาะสมโดยรัฐเพื่อค;นหาและการปล<อยตัวบุคคลดังกล<าว และการเปดโอกาสให;เอกชนมีส<วนร<วมค;นหาบุคคลที่
ถูกกระทำให;สูญหาย ดังนี้

4.4.1.1 การดำเนินมาตรการที่เหมาะสมโดยรัฐเพื่อค.นหาและปลcอยตัว

อนุสัญญา CED กำหนดให;รัฐต;องดำเนินมาตรการที่เหมาะสมโดยรัฐเพื่อค;นหาและการปล<อยตัว

บุคคลที่ถูกกระทำให;สูญหาย ดังนี้

328 Supra Note 297, para. 83.
329 Supra Note 161, p. 346.

94