Page 31 - kpiebook64011
P. 31
สภาผู้แทนราษฎรชุดนี้สิ้นสุดลงเนื่องจากนายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี ประกาศยุบสภา และมีการเลือกตั้ง
ใหม่ในวันที่ 2 กรกฎาคม 2538
ในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2538 การเมืองสมุทรปราการยังคงมีกลุ่มของนายวัฒนา
อัศวเหม ได้รับเลือกตั้งเข้ามามากที่สุดคือ 4 ที่นั่ง ผลการเลือกตั้งของสมุทรปราการในเขตที่ 1 คือ นายวัฒนา
อัศวเหม พรรคชาติไทย นายวัลลภ ยังตรง พรรคพลังธรรม และนายสนิท กุลเจริญ พรรคประชากรไทย ส่วน
เขตที่ 2 คือ นายประดิษฐ์ ยั่งยืน พรรคชาติไทย นายสมพร อัศวเหม พรรคชาติไทย และนายมั่น พัธโนทัย
พรรคชาติไทย อย่างไรก็ดี สภาผู้แทนราษฎรชุดนี้สิ้นสุดลงเนื่องจากนายบรรหาร ศิลปอาชา ประกาศยุบสภา
และมีการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2539
ในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2539 ครั้งนี้นายวัฒนา อัศวเหม ได้ย้ายจาก
พรรคชาติไทยมาสู่พรรคประชากรไทย และท าให้พรรคประชากรไทยได้รับเลือกตั้งเข้ามาแบบได้ทั้งจังหวัด ผล
การเลือกตั้งในเขตที่ 1 คือ นายวัฒนา อัศวเหม นายพูนผล อัศวเหม (บุตรชายของนายวัฒนา อัศวเหม) และ
นายสนิท กุลเจริญ ส่วนเขตที่ 2 คือ พลอากาศเอกสมบุญ ระหงษ์ นายสมพร อัศวเหม และนายมั่น พัธโนทัย
ซึ่งทั้งหกคนนี้สังกัดพรรคประชากรไทย ทั้งนี้ต้องกล่าวไว้ด้วยว่านายสนิท กุลเจริญนั้นเป็นนักการเมืองที่อยู่คน
ละข้างกับนายวัฒนา อัศวเหมมาโดยตลอด และได้รับเลือกตั้งมาหลายสมัยเช่นเดียวกัน เพียงแต่ในภายหลังนั้น
นายวัฒนา อัศวเหมได้ออกมาจากพรรคชาติไทยและไม่มีพรรคสังกัด จึงได้มาลงเอยที่พรรคประชากรไทย
หลังจากการเลือกตั้งรอบนี้พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ได้เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ต่อมาพลเอกชวลิตลาออก
เนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2540 ท าให้สภาผู้แทนราษฎรต้องมีการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ และเกิด
เหตุการณ์กลุ่มงูเห่า ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคประชากรไทยกลุ่มของนายวัฒนา อัศว
เหม ได้แหกโผของพรรคประชากรไทยไปสนับสนุนนายชวน หลีกภัยให้เป็นนายกรัฐมนตรี
2.1.1.3 การเสื่อมอ านาจของตระกูลอัศวเหม การเกิดเสื้อแดง และการคุมอ านาจของเพื่อไทย
นับตั้งแต่การเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปี 2544 ซึ่งเป็นการเลือกตั้งทั่วไปเป็นครั้งแรกที่จัดขึ้นภายใต้
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 การเมืองสมุทรปราการได้เกิดการเปลี่ยนแปลงในบทบาทของ
กลุ่มนักการเมืองไปเป็นอย่างมาก ผลการเลือกตั้งในปี 2544 แสดงให้เห็นการเสื่อมอ านาจทางการเมืองใน
ระดับชาติของกลุ่มอัศวเหม และการเกิดกลุ่มนักการเมืองที่สังกัดพรรคไทยรักไทยขึ้นมาแทนที่ โดยผู้สมัคร
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสมุทรปราการที่เป็นกลุ่มของนายวัฒนา อัศวเหมแทบทั้งหมดไม่ได้รับเลือกตั้ง
เข้ามาเลย จะมีก็เพียงแต่นางสาวเรวดี รัศมิทัต ผู้สมัครสังกัดพรรคราษฎรเพียงคนเดียวที่ได้รับเลือกตั้ง ส่วน
เขตอื่น ๆ ผู้สมัครจากพรรคไทยรักไทยสามารถก าชัยชนะได้ทั้งหมด ส่วนตัวนายวัฒนา อัศวเหม และพลอากาศ
เอกสมบุญ ระหงษ์ ไม่ได้ลงสมัครเป็นผู้แทนเขต แต่ไปลงสมัครในระบบบัญชีรายชื่อของพรรคราษฎร และไม่ได้
รับเลือกตั้ง เพราะคะแนนรายชื่อของพรรคราษฎรไม่ถึงเกณฑ์ร้อยละ 5 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง อีกทั้งในการ
เลือกตั้งเมื่อปี 2548 นางสาวเรวดี รัศมิทัต ยังย้ายไปสังกัดพรรคไทยรักไทย และนักการเมืองจากพรรคไทยรัก
ไทยก็ได้รับเลือกตั้งในทุกเขตของจังหวัดด้วย ต่อมาพรรคไทยรักไทยถูกยุบ นักการเมืองเก่าของพรรคก็ย้ายไป
ด าเนินกิจกรรมในพรรคพลังประชาชน และเมื่อมีการเลือกตั้งในปี 2550 ผู้สมัครจากพรรคพลังประชาชนใน
จังหวัดสมุทรปราการก็ได้รับเลือกตั้งทุกคน นอกจากนี้ นายวัฒนา อัศวเหมยังเผชิญคดีความเรื่องทุจริตที่ดิน
คลองด่านและหนีออกนอกประเทศ ท าให้นายวัฒนา อัศวเหมหมดบทบาททางการเมืองในสมุทรปราการ ส่วน
ขั้วอ านาจของนักการเมืองที่สังกัดพรรคไทยรักไทยซึ่งต่อมาก็คือพรรคพลังประชาชนแล้วก็ย้ายมาพรรคเพื่อ
โครงการศึกษาการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น ปี 2563: การเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ 13