Page 48 - kpiebook63032
P. 48
47
3. กระตุ้นให้ประชาชนทั่วไปสนใจที่จะมีส่วนร่วมในการปกครองด้วยวิธีการเสนอตัวผู้ที่มี
ชื่อเสียงลงสมัครรับเลือกตั้ง จัดตั้งสโมสรหรือจัดให้มีชมรมต่างๆ รวมทั้งการพักผ่อนหย่อนใจ โดยหวัง
ที่จะสร้างความสนใจทางการเมือง
4. ให้การศึกษาแก่ประชาชนทั่วไปด้วยการแจกจ่ายเอกสาร แสดงสุนทรพจน์และใช้สื่อมวลชน
ต่างๆ
5. กำาหนดพื้นฐานหรือหลักเกณฑ์ในการที่จะทำาให้กลุ่มต่างๆ ของประชาชนสามารถร่วมมือ
ปฏิบัติงานเพื่อประโชยน์ของส่วนรวม โดยเฉพาะการรวมกันเช่นนี้จะเห็นได้ชัดในรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
ซึ่งพรรคการเมืองมีส่วนช่วยให้คนจำานวนมากได้เห็นพ้องกันในปัญหาต่างๆ ยอมรับในเรื่องทางออก
แห่งปัญหาและเสนอตัวผู้ที่จะแก้ปัญหานั้น
6. พรรคการเมืองมีบทบาทในการเลือกตั้ง ทำาให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยดี มีประสิทธิภาพ และ
การเลือกตั้งจะเป็นเรื่องผ่อนคลายความตึงเครียดและความต้องการของประชาชน
7. พรรคการเมืองเน้นผู้กำาหนดนโยบายต่างๆ ซึ่งจะแสดงต่อประชาชนในการรณรงค์หาเสียง
8. พรรคการเมืองมีส่วนในการค้นหามติมหาชน และการที่ทำาให้ประชาชนสนับสนุนนโยบาย
หรือความคิดเห็นใดๆ นั้น เท่ากับเป็นการส่งเสริมความยินยอมพร้อมใจของประชาชนในปัญหาต่าง ๆ
9. มีส่วนแสวงหาผู้สมัครรับเลือกตั้งและฝึกฝนอบรมคนเหล่านี้เพื่อเป็นผู้แทนราษฎร
10. นำาเอานโยบาย/แผนการและข้อเสนอแนะต่างๆ ไปชี้แจงประชาชนทราบ
11. เป็นกลไกที่รับภาระในงานทางการเมืองและพร้อมที่จะดำาเนินการทางการเมือง
12. เมื่อใดได้รับเสียงข้างมากก็จะทำาหน้าที่เป็นรัฐบาล และเมื่อใดได้รับเสียงข้างน้อยก็จะเป็น
ผู้ตรวจสอบการทำางานของรัฐบาล เป็นเครื่องมือถ่วงดุลอำานาจของผู้ที่ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งไม่ให้
เหลิงหรือหลงในอำานาจ
13. พรรคการเมืองเป็นผู้รักษาผลประโยชน์ของชาติด้วยการชี้แจงให้ประชาชนได้ทราบ
ความเป็นไปของประเทศ ด้วยการนำานโยบายที่ประชาชนรับรองแล้วไปฏิบัติด้วยการวางแผน และปฏิบัติ
ตามแผนอย่างมีเหตุผล
14. พรรคการเมืองเชื่อมโยงช่องว่างทางเศรษฐกิจและทางภูมิศาสตร์ (ภูมิภาคนิยม) ทำาให้
ส่วนต่างๆ ของประเทศเข้ามารวมกันได้
15. พรรคการเมืองมีหน้าที่จะต้องหาข้อประนีประนอมต่างๆ เพื่อกำาหนดไว้ในนโยบายของชาติ
ทำาให้ความต้องการของผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้รับผล คือ สามารถนำาไปปฏิบัติได้จริง
16. เป็นช่องทางที่มติมหาชนสามารถแสดงออกได้อย่างชัดเจน