Page 63 - kpiebook63031
P. 63

การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562
           62       จังหวัดอุบลราชธานี







                      เมื่อการเมืองระบบใหม่แบบ “เลือกตั้ง” เข้ามามีบทบาทในอีสาน กล่าวคือ “การเลือกตั้ง”

             ทั้งในระดับชาติและระดับท้องถิ่นในระบบการเมืองสมัยใหม่ ส.ส.อีสาน พยายามกระตุ้นความเป็นท้อง
             ถิ่นนิยมและภูมิภาคนิยม ด้วยการยำ้าถึงหน้าที่ของผู้แทนราษฎรว่า นอกจากมีหน้าที่ในการออกกฎหมาย

             และในการปกครองบ้านเมืองแล้ว ยังมีหน้าที่จัดการระงับทุกข์และบำารุงสุขในพื้นที่อีกด้วย ซึ่งเท่ากับเป็น
             การยำ้า “หน่ออ่อน” ในเรื่องท้องถิ่นนิยมในเชิงพื้นที่ให้ชัดเจนขึ้น ประกอบกับการที่รัฐได้กำาหนดเกณฑ์ของ

             ผู้สมัครอย่างหนึ่ง ก็คือ กำาหนดให้เขตเลือกตั้งผูกติดกับภูมิลำาเนาของผู้สมัครหรือถิ่นที่อยู่ หรือเกิด หรือมี
             อสังหาริมทรัพย์อย่างหนึ่งอย่างใด ซึ่งกรอบดังกล่าวนี้ยิ่งทำาให้ความเป็นท้องถิ่นนิยมในเชิงพื้นที่ชัดเจนขึ้น

             ภายใต้การดำาเนินการของผู้สมัคร ส.ส. ที่ได้นำา “ท้องถิ่นนิยม” และ “ภูมิภาคนิยม” มาใช้เพื่อ “แยกคนในท้องถิ่น”
             กับ “คนนอกท้องถิ่น” เพื่อแยก “เขา” กับ “เรา” ออกจากกัน รวมทั้งระบบหัวคะแนนและฐานเสียงเป็น

             ตัวอย่างหนึ่งของเรื่องท้องถิ่นที่ชัดเจนขึ้น และเนื่องจากเขตเลือกตั้งหรือพื้นที่ทางการเมืองของ ส.ส. เป็น
             พื้นที่หรือเขตเลือกตั้งเดียวกับสมาชิกสภาเมืองและสภาจังหวัดที่ซ้อนทับกัน จึงทำาให้ ส.ส. ได้เริ่มเข้าไปมี

             บทบาทในพื้นที่หรือท้องถิ่นทางการเมืองของตนด้วยการส่งเครือญาติลงสมัครรับเลือกตั้งการเมืองระดับ
             ท้องถิ่น ประกอบกับกรอบในการเลือกสรรสมาชิกในระดับท้องถิ่น ได้ทำาให้นักการเมืองระดับชาติและ

             ระดับท้องถิ่นมีความสัมพันธ์ทางการเมืองกันนับตั้งแต่แรกเริ่มของการเมืองระดับท้องถิ่น นอกจากนี้
             กฎเกณฑ์ใหม่ที่รัฐกำาหนดขึ้นเกี่ยวกับการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น ซึ่งคล้ายกับเกณฑ์ของการเมืองระดับชาติ

             มีส่วนทำาให้ท้องถิ่นมีความสำาคัญมากขึ้น ดังนั้น จึงอาจกล่าวได้ว่า การเมืองในระบบสมัยใหม่ที่มี
             การเลือกตั้งทั้งในระดับชาติ “ส.ส.” และระดับท้องถิ่น “เทศบาล” มีส่วนสำาคัญในการยำ้า “หน่ออ่อน” ของ

             ท้องถิ่นนิยมและภูมิภาคนิยมที่มีมาก่อน พ.ศ. 2476 ให้มีความชัดเจนขึ้น และความรู้สึกในเรื่องนี้ จะเห็นได้
             ชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่อ ส.ส. อีสานได้เข้าไปมีบทบาทในสภาผู้แทนราษฎรนับตั้งแต่สมัยแรก


                      งานศึกษาของผู้เขียน ประเทือง ม่วงอ่อน (2556) ศึกษานักการเมืองถิ่นจังหวัดศรีสะเกษ

             มีวัตถุประสงค์ 4 ข้อ คือ 1) เพื่อทราบข้อมูลนักการเมืองจังหวัดศรีสะเกษที่ได้รับการเลือกตั้ง ตั้งแต่สมัยแรก
             จนถึงปี พ.ศ. 2555 2) เพื่อทราบข้อมูลนักการเมืองจังหวัดศรีสะเกษที่มีบทบาทสำาคัญในการเมืองระดับชาติ

             3) เพื่อทราบเครือข่ายและความสัมพันธ์ของนักการเมืองในจังหวัดศรีสะเกษทั้งในระดับชาติและท้องถิ่น
             และ 4) เพื่อทราบรูปแบบและวิธีการหาเสียงของผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน


                      กรอบแนวคิดในการศึกษา ประกอบด้วย แนวคิดที่ใช้อธิบายการเมืองอีสาน แนวคิดที่เกี่ยวข้อง

             กับนักการเมืองถิ่น และ แนวคิดเรื่องระบบอุปถัมภ์ อาศัยระเบียบวิธีการวิจัยเชิงคุณภาพเป็นเครื่องมือใน
             การรวบรวมข้อมูล คือ ข้อมูลจากเอกสารที่เกี่ยวข้อง(document research) การสัมภาษณ์เชิงลึก (in-depth
             interview) และการสังเกตการณ์แบบคนใน (insider) เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นความเชื่อ วัฒนธรรมทางสังคม

             ค่านิยมหรืออุดมการณ์ที่ประชาชนในจังหวัดศรีสะเกษยึดถือ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการจำาแนกประเภทข้อมูล

             การเปรียบเทียบข้อมูลและการสร้างข้อสรุปแบบอุปนัย (induction) กำาหนดขอบเขตในการศึกษา ตั้งแต่
             พ.ศ. 2476 จนถึง พ.ศ. 2554 โดยเน้นศึกษานักการเมืองที่ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
             หรือนักการเมืองในระดับชาติเป็นหลักสามารถสรุปผลการศึกษาในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา
   58   59   60   61   62   63   64   65   66   67   68