Page 54 - kpiebook63031
P. 54

53








                          ในส่วนรูปแบบและวิธีการหาเสียงของนักการเมืองถิ่นในจังหวัดอุบลราชธานี จากการศึกษา พบว่า

                  รูปแบบวิธีการหาเสียงของนักการเมืองที่ได้รับเลือกตั้งในสมัยแรกที่มีการเลือกตั้งกับในปัจจุบันแตกต่างกัน
                  กล่าวคือ ในสมัยแรกจากการเลือกตั้งของจังหวัดอุบลราชธานีที่มีนักการเมืองได้รับเลือกตั้ง เช่น นายทองอินทร์

                  ภูริพัฒน์ นายเลียง ไชยกาล นายฟอง สิทธิธรรม การหาเสียงใช้รูปแบบของการออกปราศรัยตามท้องถิ่น
                  ต่างๆ ในเขตเลือกตั้ง และการใช้กลุ่มเครือญาติ เพื่อนสนิทช่วยในการหาเสียง แต่รูปแบบและวิธีการ

                  หาเสียงของนักการเมืองในจังหวัดอุบลราชธานีในยุคปัจจุบันเปลี่ยนไปจากเดิมเป็นการใช้การจัดตั้งระบบ
                  หัวคะแนนในหมู่บ้านและชุมชนกระจายครอบคลุมเขตเลือกตั้ง ซึ่งปัจจัยเกี่ยวกับความสามารถในการจัดตั้ง

                  หัวคะแนนจัดได้ว่าเป็นปัจจัยชี้ขาดสำาคัญที่จะทำาให้ผู้สมัครได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง นอกจากนี้ ผู้สมัคร
                  ยังจะต้องมีความสามารถและเอาใจใส่ต่อการให้บริการประชาชนในเขตเลือกตั้ง เช่น การดูแลทุกข์สุข

                  ของประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนที่มาขอความช่วยเหลือจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือผู้ลงสมัคร
                  รับเลือกตั้ง การเข้าร่วมในกิจกรรมงานบุญประเพณีที่ชาวบ้านในชุมชนจัดขึ้นอย่างสมำ่าเสมอตลอดเวลา

                  ซึ่งรูปแบบและวิธีการหาเสียงดังกล่าวสำาคัญมาก อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้สมัครที่เป็น
                  คนมีความรู้ความสามารถ คบง่าย พึ่งพาได้ ก็เป็นปัจจัยที่สำาคัญประกอบกัน


                          เต็มบุญ ศรีธัญรัตน์ (2554) ศึกษา กลุ่มการเมืองท้องถิ่นในเทศบาลเมืองและเทศบาลนครใน
                  ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนใต้ มีวัตถุประสงค์ในการศึกษา 4 ประการ คือ 1) ศึกษาเปรียบเทียบกำาเนิด

                  กลุ่มการเมืองท้องถิ่นในเทศบาล 2) ศึกษาถึงความสัมพันธ์ของกลุ่มการเมืองท้องถิ่นกับพรรคการเมือง
                  หรือกลุ่มการเมืองระดับชาติ 3) ศึกษาถึงการแข่งขันของกลุ่มการเมืองท้องถิ่นกลุ่มต่างๆ ในเทศบาล และ

                  4) ศึกษาบทบาทของกลุ่มการเมืองท้องถิ่นในการผลักดันให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมือง
                  ระเบียบวิธีการวิจัย การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงบูรณาการ ประกอบด้วย การวิจัยเชิงคุณภาพ ข้อมูลโดย

                  ส่วนใหญ่มาจากการสัมภาษณ์นักการเมืองท้องถิ่น รวมทั้งสิ้น 17 คน พื้นที่ที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย
                  เทศบาลนคร 1 แห่ง คือ เทศบาลนครอุบลราชธานี และเทศบาลเมือง 3 แห่ง คือ เทศบาลเมืองศรีสะเกษ

                  เทศบาลเมืองอำานาจเจริญ และเทศบาลเมืองยโสธร และการวิจัยเชิงปริมาณ ได้กำาหนดจำานวนประชากร
                  ตัวอย่าง ดังนี้ เทศบาลนครอุบลราชธานี 397 คน เทศบาลเมืองศรีสะเกษ 394 คน เทศบาลเมือง

                  อำานาจเจริญ 390 คน และเทศบาลเมืองยโสธร 390 คน รวมประชากรตัวอย่างทั้งหมด จำานวน 1,571 คน

                          ผลการวิจัยเชิงคุณภาพ พบว่า


                          1. เปรียบเทียบกำาเนิดกลุ่มการเมืองท้องถิ่นในเทศบาลขนาดใหญ่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
                  ตอนใต้ พบว่า การรวมตัวจัดตั้งเป็นกลุ่มการเมืองท้องถิ่นระดับเทศบาลเมืองหรือเทศบาลนครในเขตพื้นนี้

                  จะมีลักษณะสำาคัญที่สอดคล้องกัน คือ มีการสืบทอดเป็นตระกูลทางการเมือง และเกิดจากการรวมกลุ่มของ
                  นักธุรกิจ พ่อค้า นักลงทุนที่มีเชื้อสายจีนและการรวมตัวจัดตั้งเป็นกลุ่มการเมืองท้องถิ่นจะมีความแตกต่างกัน

                  ในประเด็นสำาคัญ คือ ระดับการแข่งขัน หรือความรุนแรงที่มีความแตกต่างกัน ลักษณะการสร้างเครือข่าย
                  ระหว่างกลุ่มการเมืองระดับชาติกับกลุ่มการเมืองท้องถิ่นมีความแตกต่างกันไปในแต่ละจังหวัด เขตที่มี

                  ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งน้อยมักจะเอื้อให้เกิดการผูกขาดอำานาจทางการเมืองของกลุ่มการเมืองท้องถิ่นเพียง
                  กลุ่มเดียวเป็นหลัก
   49   50   51   52   53   54   55   56   57   58   59