Page 34 - kpiebook63028
P. 34
33
ระบบการเลือกตั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงระบบการเมืองภายในประเทศของแต่ละประเทศ จากการพิจารณา
ระบบการเลือกตั้งควบคู่กันไปกับระบบพรรคการเมืองของประเทศต่าง ๆ แล้วอาจกล่าวได้ว่า ระบบการเลือกตั้ง
แบบคะแนนเสียงข้างมากมักจะใช้ในประเทศที่มีระบบพรรคการเมืองแบบสองพรรค ระบบการเลือกตั้งแบบ
มีผู้แทนตามสัดส่วนของคะแนนเสียง มักใช้อยู่ในประเทศที่มีระบบพรรคการเมืองแบบหลายพรรค ปรากฏการณ์นี้
ได้มีผู้ให้ข้อสังเกตว่า การเลือกตั้งแบบคะแนนเสียงข้างมากเอื้ออำานวยที่จะก่อให้เกิดระบบการเมืองแบบสองพรรค
และระบบการเลือกตั้งแบบมีผู้แทนสัดส่วนของคะแนนเสียงเอื้ออำานายที่จะทำาให้เกิดระบบพรรคการเมือง
หลายพรรคขึ้น อย่างไรก็ตามข้อสังเกตนี้ถือเป็นข้อสรุปไม่ได้ทั้งนี้ เพราะว่าระบบพรรคการเมืองแบบต่าง ๆ
มีปัจจัยอื่นอีกหลายอย่างที่จะทำาให้เป็นระบบสองพรรคหรือระบบหลายพรรค ลำาพังระบบการเลือกตั้งอาจมี
ผลกระทบบ้างแต่มิใช่ตัวกำาหนดระบบพรรคการเมืองแต่อย่างใด
3. ระบบการเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วนผสม (Mixed Member Apportionment System หรือ
MMA) ระบบเลือกตั้งนี้จะช่วยให้เสียงทุกเสียงมีความหมาย หรือที่เรียกว่าทุกคะแนนเสียงไม่ตกนำ้า ซึ่งนักวิชาการ
หรือพรรคการเมืองจำานวนหนึ่งแย้งว่า ระบบเลือกตั้งรูปแบบนี้ส่งผลให้พรรคการเมืองมีความอ่อนแอ นำาไปสู่
การเกิดรัฐบาลผสมที่ไร้เสถียรภาพ เป็นรัฐบาลผสม ที่มีพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งที่ได้เสียงข้างมาก
เกินกว่ากึ่งหนึ่งของจำานวนสมาชิกทั้งหมด รวมถึงระบบการเลือกตั้งแบบนี้มีโอกาสที่ผู้สมัครจะซื้อเสียงมากขึ้น
และไม่สะท้อนเจตนารมณ์ของผู้ออกเสียงฯลฯ
ระบบการเลือกตั้งแบบนี้ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะได้รับบัตรเลือกตั้งเพียงใบเดียว ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะกาบัตร
ครั้งเดียว ได้ 3 สิ่ง คือ ได้ทั้งคนที่ลงสมัครรับเลือกตั้งในเขตเลือกตั้ง ได้ทั้งพรรคการเมืองต้นสังกัดของผู้สมัคร
และได้เลือกบุคคลที่พรรคเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ระบบเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วนผสม หรือ MMA
ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับมีชัย กำาหนดให้มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จำานวน 500 คน แบ่งเป็น ส.ส. แบบ
แบ่งเขตเลือกตั้งจำานวน 350 คน และ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 150 คน ใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียวเพื่อกาผู้สมัครที่
ชื่นชอบ ขณะเดียวกันการกาผู้สมัครที่เราชื่นชอบจะส่งผลให้เป็นการเลือกพรรคการเมืองที่เขาสังกัดอยู่ไปด้วย
ซึ่งคะแนนที่เราให้พรรคจะนำาไปคำานวณเพื่อคิดที่นั่ง ส.ส.ทั้งสภาที่พรรคการเมืองนั้นควรจะได้
ระบบการเลือกตั้งแบบ MMA ที่มาของ ส.ส. แบ่งเขตเลือกตั้ง จำานวน 350 คน ยังคงเป็นระบบเลือกตั้ง
เสียงข้างมาก หรือหนึ่งคนหนึ่งเขตที่ใช้มาตั้งแต่รัฐธรรมนูญ 2540 คือ แต่ละเขตจะมี ส.ส. ได้เขตละ 1 คน และ
ผู้มีสิทธิเลือกตั้งมีสิทธิลงคะแนนเลือกได้เพียงคนเดียว ซึ่งผู้สมัครรับเลือกตั้งที่ได้รับคะแนนสูงสุดจะได้เป็น ส.ส.
ยกเว้นคะแนนเสียงที่ไม่เลือกผู้ใด (งดออกเสียง) สูงกว่าคะแนนของผู้สมัครที่ได้คะแนนสูงสุด ส่วนที่มาของ
ส.ส. บัญชีรายชื่อ จำานวน 150 คน เป็นบัญชีเดียวกันทั้งประเทศ โดยพรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง
แบบแบ่งเขตเลือกตั้งเท่านั้นที่มีสิทธิส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อได้ เนื่องจากการเลือกตั้งจะใช้
บัตรใบเดียวคือ หนึ่งคะแนนลงให้ผู้สมัครที่ชื่นชอบในเขตของตน จะถูกนับเป็นหนึ่งคะแนนในการคิดที่นั่ง ส.ส.
แบบบัญชีรายชื่อให้กับพรรคการเมืองที่ผู้สมัครคนนั้นสังกัดอยู่ด้วย