Page 159 - kpiebook63019
P. 159

154






               ในการพัฒนาและแก้ไขกฎหมาย ความโปร่งใสและปลอดจากอิทธิพลของนักธุรกิจและกลุ่มผลประโยชน์

               ของธุรกิจ และการดึงดูดเยาวชนให้สนใจงานของรัฐสภา โดยผลการประเมินสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
               ด้านความโปร่งใสและการเข้าถึงได้ ในภาพรวมพบว่ามีการดำเนินงานอยู่ในระดับปานกลาง

               (ค่าเฉลี่ย = 2.51, S.D. = 0.93) ได้คะแนนเป็นลำดับที่ห้า โดยเมื่อพิจารณาตามองค์ประกอบย่อย พบว่า
               ด้านการเปิดเผยข้อมูลผลการประชุมของรัฐสภาและคณะกรรมาธิการต่อสื่อและสาธารณะ มีคะแนนเฉลี่ย
               สูงที่สุด โดยมีการดำเนินงานอยู่ในระดับสูง (ค่าเฉลี่ย = 3.16, S.D. = 1.05) ทั้งนี้ ผู้ประชุมกลุ่มและ

               ผู้ทรงคุณวุฒิมีความคิดเห็นสอดคล้องกัน คือ สภานิติบัญญัติแห่งชาติและคณะกรรมาธิการได้มีการเปิดเผย
               ผลการประชุมหรือผลการดำเนินงานต่อสื่อ สามารถค้นหาและติดตามผลการประชุมของสภานิติบัญญัติ

               แห่งชาติและคณะกรรมาธิการจากสื่อของรัฐสภาได้ แต่สื่อหลักมักไม่เผยแพร่หรือประชาสัมพันธ์ต่อประชาชน
               โดยผลการประชุมของคณะกรรมาธิการส่วนใหญ่เป็นเพียงรายงานสรุปผลการประชุมเท่านั้น รองลงมา คือ
               ด้านการมีเสรีภาพของสื่อในการเข้าถึงและนำเสนอข่าวเกี่ยวกับการดำเนินงานของรัฐสภาและสมาชิก

               รัฐสภา มีการดำเนินงานอยู่ในระดับสูง (ค่าเฉลี่ย = 3.08, S.D. = 1.17) โดยทั้งสองกลุ่มเห็นว่าสื่อยังมีเสรีภาพ
               จำกัดในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารการทำงานของสภานิติบัญญัติแห่งชาติและสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ

               และขาดความเป็นอิสระในการนำเสนอ โดยสื่อเองยังต้องนำเสนอข่าวด้วยความระมัดระวัง เนื่องจาก
               สถานการณ์ทางการเมืองเป็นช่วงสถานการณ์พิเศษหรือไม่ปกติ ด้านการมีช่องทาง ความถี่ และ
               การครอบคลุมของการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินงานของรัฐสภาและกรรมาธิการ มีการดำเนินงาน

               อยู่ในระดับปานกลาง (ค่าเฉลี่ย = 2.85, S.D. = 0.95) ความเห็นจากการประชุมกลุ่มมองว่าช่องทางและ
               การครอบคลุมในการเผยแพร่การดำเนินงานของสภานิติบัญญัติแห่งชาติและคณะกรรมาธิการมีความเหมาะสมดี

               โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ช่องทางสื่อของรัฐสภา อาทิ เว็บไซต์ สื่อวิทยุและโทรทัศน์รัฐสภาทั้งผ่านทีวีและ
               ผ่านอินเทอร์เน็ต เฟสบุ๊ค ซึ่งมีเครือข่ายครอบคลุมพื้นที่โดยรอบ ทั้งนี้ จุดด้อยยังมีอยู่ คือ การสืบค้น ค้นหาข้อมูล
               ในเว็บไซต์รัฐสภายังมีความยุ่งยาก การจัดหมวดหมู่ในเว็บไซต์ซับซ้อน อีกทั้งวิธีการสื่อสารของสภานิติบัญญัติ

               มีลักษณะเป็นการสื่อสารทางเดียว ซึ่งในประเด็นนี้ผู้ทรงคุณวุฒิเห็นตรงกันว่าควรต้องได้รับการปรับปรุง และ
               ต้องมีการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจในงานของรัฐสภามากยิ่งขึ้น


                     
 
 
 
     
   ในด้านรูปแบบ วิธีการ และภาษาที่ใช้ในการเผยแพร่ข้อมูลของรัฐสภาและ
               กรรมาธิการ มีการดำเนินงานอยู่ในระดับปานกลาง (ค่าเฉลี่ย = 2.76, S.D. = 1.00) โดยผู้ทรงคุณวุฒิและ

               การประชุมกลุ่มต่างเห็นว่าภาษาที่ใช้ในการเผยแพร่ข้อมูลของสภานิติบัญญัติแห่งชาติและคณะกรรมาธิการ
               เป็นภาษาราชการ เหมาะสมสำหรับนักวิชาการ ข้าราชการ หรือกลุ่มผู้สนใจงานของรัฐสภา แต่สำหรับ
               ประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจได้ยาก นอกจากนี้ เนื้อหาและการนำเสนอยังขาดความเกี่ยวโยงกับประชาชนทั้งใน

               ระดับพื้นที่และระดับประเทศ และรูปแบบการนำเสนอยังไม่อำนวยความสะดวกและเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มคน
               ที่มีความบกพร่อง เช่น กลุ่มคนที่มีความบกพร่องทางการมองเห็น และกลุ่มคนที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน

               เป็นต้น ส่วนด้านความโปร่งใสและปลอดจากอิทธิพลของนักธุรกิจและกลุ่มผลประโยชน์ของธุรกิจ
               มีการดำเนินงานอยู่ในระดับปานกลาง (ค่าเฉลี่ย = 2.45, S.D. = 1.31)เช่นกัน ความเห็นจากการประชุมกลุ่ม
               ให้ข้อสังเกตว่าสภานิติบัญญัติแห่งชาติอาจไม่ปลอดจากอิทธิพลของนักธุรกิจและกลุ่มผลประโยชน์ของธุรกิจ










            การประเมินผลการดำเนินงานของรัฐสภาไทย (สภานิติบัญญัติแห่งชาติ) โดยใช้เกณฑ์และตัวชี้วัดของ Inter-Parliamentary Union (IPU)
   154   155   156   157   158   159   160   161   162   163   164