Page 33 - kpiebook63012
P. 33
33
นอกจากนี้ ยังมีระบบที่เรียกว่า Single Non-Transferable Vote (SNTV) กล่าวคือ เป็นระบบเลือกตั้ง
ที่เขตเลือกตั้งมีผู้แทนได้มากกว่า 1 คน แต่ผู้มีสิทธิออกเสียงสามารถลงคะแนนได้เพียง 1 เสียงเท่านั้น ผู้ชนะ
การเลือกตั้งคือผู้ที่ได้คะแนนมากที่สุดตามลำาดับลงมาเท่าจำานวนผู้แทนที่เขตเลือกตั้งนั้นพึงมี เช่น ในเขตที่มี
ผู้แทนได้ 5 คน ผู้ที่ได้คะแนนมากที่สุดอันดับหนึ่งถึงอันดับห้า จะเป็นผู้ได้รับเลือกตั้ง ระบบนี้ใช้ในญี่ปุ่นจนกระทั่งปี
ค.ศ. 1994 โดยเขตหนึ่งมีตัวแทนได้ 3 - 5 คน ระบบเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาของไทยภายใต้รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540
ก็มีลักษณะเช่นเดียวกัน กล่าวกันว่าระบบเลือกตั้งแบบเสียงข้างมากธรรมดาแบบ SNTV นี้จะเป็นหลักประกัน
ให้คนในกลุ่มน้อยสามารถเข้ามาเป็นตัวแทนในเขตนั้น ๆ ได้ เพราะคะแนนเสียงประมาณ 1 ใน 5 ก็อาจทำาให้
ผู้สมัครชนะการเลือกตั้งได้และอาจจัดว่าเป็นสูตรเลือกตั้งแบบ “กึ่งสัดส่วน” (Semi-Proportional Formula)
ในทางกลับกัน ระบบเลือกตั้งแบบจำากัดจำานวนโหวต (Limited Vote หรือ LV) เป็นระบบเลือกตั้ง
ที่เขตเลือกตั้งมีผู้แทนได้มากกว่า 1 คน ผู้มีสิทธิออกเสียงสามารถลงคะแนนได้เกิน 1 เสียง แต่น้อยกว่าจำานวน
ผู้แทนที่เขตเลือกตั้งนั้นพึงมี เช่น ในเขตเลือกตั้งที่มีผู้แทนได้ 4 คน อาจกำาหนดให้ผู้ใช้สิทธิมี 2 เสียง ผู้ชนะ
การเลือกตั้งคือผู้ที่ได้คะแนนเสียงสูงสุดจำานวนเท่ากับที่ผู้แทนในเขตนั้นจะมีได้ไล่ตามลำาดับลงมา เมื่อเป็นเช่นนี้
ผู้ออกเสียงจะมีอิสระมากขึ้น แต่ข้อเสียคือ เอื้อต่อการแข่งขันกันเองของผู้สมัครในพรรคการเมืองเดียวกัน
2) ระบบเลือกตั้งแบบเสียงข้างมากเด็ดขาด (Majority Rule)
ใช้ในการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตแต่ละเขตมีตัวแทนได้ 1 คน ผู้ชนะจะต้องได้รับเลือกด้วยเสียงข้างมาก
เด็ดขาด (absolute majority) กล่าวคือ เกิน 50% ขึ้นไป เช่น มีผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง 100,000 คน ผู้ชนะ
ต้องได้คะแนนเสียงเกิน 50,000 คะแนน ที่เป็นเช่นนี้เพื่อให้ผู้ชนะการเลือกตั้งได้คะแนนสนับสนุนมากพอที่จะ
มีความชอบธรรมในการทำาหน้าที่ ปัญหาก็คือถ้าไม่มีผู้สมัครคนใดได้เสียงข้างมากเด็ดขาดจะมีวิธีการแก้ปัญหา
อย่างไรได้บ้างเช่นภาพที่ 2
ฝรั่งเศส (ประธานาธิบดี)
การเลือกตั้งรอบสอง ยูเครน
Majority Systems เด็ดขาด – ธรรมดา ฝรั่งเศส (สภาล่าง)
ภาพที่ 3 ระบบการเลือกตั้ง จัดล�าดับความชอบ
แบบเสียงข้างมากเด็ดขาด ออสเตรเลีย
ที่มา สิริพรรณ นกสวน, 2558, น.102