Page 29 - kpiebook63012
P. 29
29
ประมาณ 900 ล้านคน การเลือกตั้งในเกาหลีเหนือมีขึ้นทุก ๆ 4-5 ปี เพื่อเลือกสภาประชาชนสูงสุด (Supreme
People’s Assembly) ที่พรรคแรงงานเกาหลี (Worker’s Party of Korea) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพรรคแนวร่วม
Democratic Front for the Reunification of the Fatherland ชนะเลือกตั้งทุกครั้ง ประธานาธิบดี 3 คน
คือ Kim Il-sung บุตรชาย Kim Jong-il และหลานชาย Kim Jong-un สืบทอดกันโดยสายเลือด การเลือกตั้ง
ในประเทศจีนและเกาหลีเหนือเป็นตัวอย่างที่ดีของการเลือกตั้งที่ไม่สะท้อนหลักการประชาธิปไตย เนื่องจาก
ขาดคุณสมบัติสำาคัญ 2 ประการเป็นอย่างน้อย คือ
1. ต้องโปร่งใส (transparency) ระบบเลือกตั้งจะได้รับความชอบธรรมจากสาธารณชนได้
จะต้องเปิดเผย โปร่งใส สามารถรับรู้เข้าใจได้ร่วมกันโดยทั่วไปถึงขั้นตอน กระบวนการลงคะแนน
การนับคะแนน และการคำานวณผลลัพธ์
2. ได้ “ตัวแทน” (representation) ตรงตามเจตนารมณ์ของประชาชนที่ไปลงคะแนนเลือก กล่าวคือ
การแปรคะแนนเสียงให้เป็นที่นั่งในสภาก็เพื่อให้ได้ตัวแทนที่ประชาชนต้องการ สามารถ “แทน”
ประชาชนในเชิงอัตลักษณ์ในมิติต่าง ๆ ได้ และทำาหน้าที่ “แทน” ประชาชนในรัฐสภาและรัฐบาล
แนวคิดเรื่องการเป็นตัวแทนไม่ได้มีเพียงมุมมองเดียว การได้มาซึ่งตัวแทนที่เหมาะสมมีแง่มุม
หลายประการ เช่น ตัวแทนในเชิงภูมิศาสตร์ ตัวแทนในเชิงอุดมการณ์ ตัวแทนกลุ่มอาชีพ หรือ
ตัวแทนเชิงวัฒนธรรม
2.1.3 องค์ประกอบของกำรเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรม
ความสำาคัญของการเลือกตั้งไม่ใช่การไปกากบาทในช่องสี่เหลี่ยม แต่มันคือเสรีภาพในการขับเคลื่อน
พลังของประชาชนที่การเลือกตั้งได้สร้างขึ้นมา การที่ประชาชนทั่วพื้นที่ของประเทศได้แสดงพลังทางการเมือง
ในการเข้าร่วมกิจกรรม ตั้งแต่การสนทนาแลกเปลี่ยน การรวมกลุ่ม การแสดงออกซึ่งความปรารถนา ความใฝ่ฝัน
ความหวัง และความต้องการอย่างเปิดเผย การขับเคลื่อนทางการเมืองอย่างเสรีของประชาชนนี่เองที่จะ
กลายเป็นหลักสำาคัญในอนาคต อาจสำาคัญกว่าผลการเลือกตั้งเสียด้วยซำ้า
ดังแสดงไปแล้วข้างต้น การเลือกตั้งเป็นเหมือนคู่แฝดกับการปกครองระบอบประชาธิปไตย กล่าวได้ว่า
ระบอบประชาธิปไตยสมัยใหม่เกิดขึ้นไม่ได้ หากไม่มีการเลือกตั้ง ทั้งนี้ เพราะการเลือกตั้งมีความสำาคัญ คือ
1. เป็นกลไกสรรหาตัวแทนของประชาชนเข้าไปทำาหน้าที่ในสภา
2. เป็นเครื่องมือของประชาชนในการส่งผ่านข้อเรียกร้องและความต้องการ (ที่เป็นกลุ่มก้อน
มากกว่าความต้องการเดี่ยว) เข้าสู่ระบบการเมือง
3. เป็นกลไกเชื่อมโยงระหว่างประชาชนกับผู้ปกครองในเชิงสัญลักษณ์ เป็นเครื่องมือให้ประชาชน
รู้สึกว่ามีตัวตน และสามารถควบคุมตัวแทนโดยการเลือกหรือไม่เลือกในการเลือกตั้งครั้งต่อไป
ในขณะเดียวกันก็สร้างความชอบธรรมให้ผู้ปกครอง