Page 41 - kpiebook63006
P. 41

41








                            ข้อเสียของระบบนี้


                          1.  ผลกระทบต่อระบบพรรคการเมืองและเสถียรภาพของรัฐบาล ระบบนี้มีแนวโน้มที่จะทำาให้

                              เกิดระบบหลายพรรค มากกว่าระบบ 2 พรรค เนื่องจากผู้ใช้สิทธิอาจตัดสินใจเลือกผู้สมัคร
                              จากต่างพรรคจนครบจำานวนผู้แทนที่พึงมีในเขตเลือกตั้ง แทนการเลือกผู้สมัครจากพรรค

                              เดียวกันทั้งหมดหรือที่เรียกว่าเลือกแบบ “ยกทีม” ทำาให้พรรคที่มีที่นั่งในสภามีจำานวนมากกว่า
                              2 พรรค และไม่มีพรรคการเมืองใดครองที่นั่งในสภาเกินครึ่ง นำาไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลผสม

                              ซึ่งมีปัญหาเสถียรภาพเมื่อเทียบกับรัฐบาลพรรคเดียว

                          2.  เลือกคนแทนเลือกพรรค ด้วยเหตุที่ระบบนี้กำาหนดให้เขตเลือกตั้งมีผู้แทนได้หลายคน และ

                              ไม่จำาเป็นต้องเลือกผู้สมัครจากพรรคเดียวกันทั้งหมด ระบบนี้จึงไม่ส่งเสริมต่อการสร้างความ

                              เข้มแข็งให้กับพรรคการเมือง เพราะผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งอาจตัดสินใจเลือกผู้สมัครจากคุณสมบัติ
                              ส่วนตัวแทนที่จะเป็นพรรคการเมือง


                          3.  การขาดความเป็นเอกภาพภายในทีมผู้สมัครของพรรค ระบบนี้อาจส่งผลให้ผู้สมัครหาคะแนน
                              เสียงเพียงลำาพัง หรือที่เรียกว่า “ยิงลูกโดด” แทนการหาเสียงเป็นพรรคเพื่อเป็นหลักประกันว่า

                              ตนเองจะชนะเลือกตั้งอย่างแน่นอนเมื่อเทียบกับการหาเสียงเป็นทีมที่อาจมีบางคนแพ้ให้กับ
                              พรรคคู่แข่งได้ ในบางกรณีอาจหาเสียงแข่งกันเองภายในพรรคโดยร่วมมือหรือ “ฮั้ว” กับ

                              ผู้สมัครพรรคคู่แข่งเพื่อหวังชนะร่วมกันเมื่อเห็นว่าพรรคคู่แข่งมีผู้สมัครที่ได้รับความนิยมสูง
                              หากหาเสียงเป็นทีมก็ยากที่จะชนะเลือกตั้งได้




                               2.1.3 ระบบเสียงข้ำงมำกธรรมดำ เลือกเป็นพรรค


                               ระบบเสียงข้างมากธรรมดา เลือกเป็นพรรค (party block vote: PBV) ระบบนี้ ในแต่ละ

                  เขตเลือกตั้งมีผู้แทนมากกว่า 1 คน เช่นเดียวกับระบบเสียงข้างมากธรรมดา มีตัวแทนมากกว่า 1 คน
                  แต่ความแตกต่างอยู่ที่ผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งสามารถลงคะแนนได้เพียง 1 เลขหมายเท่านั้น โดยเป็นการเลือกผู้สมัคร

                  เป็นพรรค ซึ่งส่งผู้สมัครเป็นบัญชีรายชื่อครบตามจำานวนผู้แทนที่พึงมีในเขตเลือกตั้งนั้น พรรคการเมืองใด
                  ได้คะแนนสูงสุดในเขตเลือกตั้ง ผู้สมัครตามบัญชีรายชื่อทั้งหมดในเขตเลือกตั้งก็ได้รับการเลือกตั้งทั้งหมด


                            ข้อดีของระบบนี้


                          1.  เข้าใจง่าย ไม่ยุ่งยากซับซ้อนสำาหรับประชาชนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้ง และสะดวก รวดเร็วในการ
                              จัดการเลือกตั้งแก่คณะผู้จัดการเลือกตั้ง


                          2.  การสร้างความเข้มแข็งให้กับพรรคการเมือง เพราะประชาชนต้องมุ่งให้ความสนใจต่อ

                              ตัวพรรคการเมืองมากกว่าตัวผู้สมัคร ในขณะเดียวกันพรรคการเมืองสามารถเลือกตัวบุคคล
   36   37   38   39   40   41   42   43   44   45   46