Page 200 - kpiebook62014
P. 200
ยิ่ง ดังนั้น แม้วิธีการเข้าหาผู้น าชุมชนตั้งแต่ช่วงเริ่มแรกในการด าเนินโครงการ ผ่านการสนทนากึ่งสัมภาษณ์
รายบุคคลจะต้องใช้เวลามากเพราะต้องนัดหมายวันเวลาว่างให้ตรงกันและใช้เวลาสนทนาอย่างน้อยไม่ต ่ากว่า
รายละ 1 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม วิธีการนี้จะช่วยให้ผู้น าชุมชนเกิดความรู้สึกผ่อนคลาย สามารถแสดงความคิดเห็น
และซักถามข้อสงสัยกับผู้วิจัยได้อย่างเต็มที่ ก่อเกิดความไว้วางใจและเกิดการยอมรับในเวลาต่อมา ซี่งการ
ยอมรับและสนับสนุนของผู้น าชุมชนก็มีผลอย่างยิ่งต่อการด าเนินโครงการและกิจกรรมต่างๆในชุมชนในล าดับ
ต่อไป
ขั้นที่สาม การค้นหาเป้าหมายและวางแผนร่วมกัน เป็นขั้นตอนที่ผู้วิจัยก าหนดไว้ว่าต้องเร่งด าเนินการ
ภายหลังจากที่ผู้วิจัยได้เปิดตัวโครงการนี้กับผู้น าชุมชนรายบุคคล โดยในการก าหนดเป้าหมายและวางแผนการ
พัฒนาชุมชนนั้นจะเริ่มต้นจากกลุ่มผู้น าท้องที่ ผู้น าท้องถิ่นและปราช์ชาวบ้านที่ผู้วิจัยได้เข้าปรึกษาหารือก่อน
หน้า โดยเป้าหมายสูงสุดในขั้นตอนนี้ คือการค้นหาประเด็นปัญหาและก าหนดแนวทางการสร้างชุมชนเข้มแข็ง
ร่วมกันระหว่างคนในชุมชนต่อไป การน าวิธีการสนทนากลุ่มมาใช้ในช่วงเริ่มต้นโครงการเพื่อส่งเสริมการสร้าง
ชุมชนพลเมืองเข้มแข็งกับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้น านั้นเป็นขั้นตอนที่ผู้วิจัยแนะน าว่าควรต้องปฏิบัติ เพราะ
นอกจากจะช่วยให้สามารถก าหนดประเด็นชุมชนเข้มแข็งอันเป็นที่พึงปรารถนาของคนในชุมชนได้อย่างแท้จริง
แล้ว ยังช่วยให้ผู้น าชุมชนที่ผู้วิจัยได้เข้าหารือรายบุคคลเข้าร่วมสนทนากลุ่มในครั้งนี้จะก่อให้เกิดการเรียนรู้
ร่วมกันว่าแต่ละฝ่ายคิดเห็นอย่างไรต่อการด าเนินโครงการวิจัย นอกจากนั้นผู้วิจัยยังสามารถใช้พื้นที่นี้ในการ
ตอบข้อสงสัยในกรณีที่มีผู้ตั้งค าถามได้อีกด้วย ขณะที่หากผู้เข้าร่วมสนทนากลุ่มทุกคนเห็นพ้องกันที่จะด าเนิน
โครงการนี้ จะเกิดให้เกิดฉันทามติเป็นความชอบธรรมในการด าเนินโครงการอันจะส่งผลต่อการให้ความร่วมมือ
ของผู้น าชุมชนในเวลาต่อมา
สิ่งที่ส าคัญในขั้นตอนนี้ก็คือผู้อ านวยกระบวนการพูดคุยจะต้องเปิดพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ให้มากที่สุด
มีการสร้างบรรยายกาศของการเรียนรู้ร่วมกันมากกว่าการรับฟังผู้วิจัยเพียงฝ่ายเดียว แต่โดยที่การเปิดเวทีนั้น
จะต้องมีกรอบค าถามในการพูดคุยที่จะน าไปสู่เป้าหมายสูงสุดของกระบวนการในการค้นหานิยามชุมชน
พลเมืองเข้มแข็ง แนวทางการส่งเสริมชุมชนเข้มแข็งและกิจกรรมที่จะด าเนินต่อไป โดยผู้อ านวยการพูดคุย
จะต้องไม่หลุดกรอบค าถามเหล่านี้เพื่อดึงให้การสนทนาอยู่ในทิศทางของเป้าหมายที่ก าหนดไว้ ซึ่งผลการด าเนิน
กระบวนการนี้ พบว่าผู้น าชุมชนส่วนใหญ่เมื่อเปิดเวทีให้มีการแสดงความคิดเห็นแล้ว มักจะไม่มีปัญหาในการ
แสดงความคิดเห็น มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันคึกคัก ท าให้ได้แนวทางกิจกรรมมาตามเป้าหมาย อย่างไรก็
ตาม ผู้น ากระบวนการต้องพึงระวังการครองเวทีหรือน าความคิดโดยผู้น าบางคน โดยไม่ควรสรุปข้อเสนอจาก
ผู้น าคนใดคนหนึ่งในทันทีแต่ควรเปิดรับฟังให้มาก และจดความคิดเห็นต่างๆไว้หากพบว่ามีประเด็นที่สอดคล้อง
กัน แล้วจึงอาจจัดกลุ่มร่วมกันอีกครั้ง แต่ทั้งนี้ต้องเป็นไปโดยความเห็นชอบของผู้เข้าร่วมประชุมภายใต้หลักการ
มีส่วนร่วม
184