Page 197 - kpiebook62014
P. 197
เฉพาะคนกลุ่มนี้ก่อน อาจเป็นหนทางที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดเพราะคนกลุ่มนี้มักเป็นผู้ที่มีพื้นฐานความรู้
พอสมควรมีประสบการณ์มากสามารถสร้างความเข้าใจในเรื่องดังกล่าวได้ไม่ยาก ซึ่งหากคนกลุ่มนี้เข้าใจก็อาจ
เป็นก าลังส าคัญในการถ่ายทอดความรู้เหล่านี้ต่อไป ก่อให้เกิดการขยายวงขององค์ความรู้สู่คนในชุมชนได้มาก
ขึ้น
อย่างไรก็ตาม การมีความรู้กับการมีพฤติกรรมนั้น แม้จะเกี่ยวข้องกันแต่ก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขหลาย
ประการ การที่มุ่งสร้างแกนน าให้มีความรู้ความเข้าใจเรื่องความส าคัญของการเป็นพลเมืองในการมีส่วนร่วม
ส่งเสริมชุมชนเข้มแข็งผ่านกิจกรรมรณรงค์การเลือกตั้งสมานฉันท์ อาจเป็นประเด็นที่มีความซับซ้อนมากเกินไป
เพราะท้ายที่สุดแล้วคนในชุมชนอาจไม่เห็นความสัมพันธ์ระหว่างการเป็นพลเมือง การมีส่วนร่วมทางการเมือง
ชุมชนเข้มแข็ง และการเมืองที่ดี ที่มีการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม แต่เห็นเพียงว่าบั้นปลายของการท ากิจกรรม
พวกเขาจะได้อะไรในที่นี้ก็คือพวกเขาจะไม่ได้สิ่งที่พวกเขาเคยได้นั่นเอง และสิ่งนี้เป็นปัจจัยที่ส่งผลอย่างยิ่งต่อ
การตัดสินใจเปิดรับอย่างไม่มีข้อกังขาต่อการท ากิจกรรมรณรงค์ส่งเสริมการเลือกตั้งสมานฉันท์และไม่ซื้อสิทธิ
ขายเสียงเพื่อสร้างชุมชนให้เข้มแข็ง ซึ่งเรื่องนี้อาจกระทบต่อการตัดสินใจเข้าร่วมกิจกรรมของคนในชุมชน
เรื่อยไปจนกระทั่งการตัดสินใจถ่ายทอดความรู้เรื่องดังกล่าวของกลุ่มผู้น าและจิตอาสา รวมไปถึงการ “เลือก” ที่
จะถ่ายทอดความรู้เพียงบางชุดของกลุ่มผู้น าและจิตอาสา ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเงื่อนไขที่ส่งผลให้การรณรงค์ส่งเสริม
การเลือกตั้งสมานฉันท์และไม่ซื้อสิทธิขายเสียงเพื่อส่งเสริมชุมชนพลเมืองเข้มแข็ง เกิดขึ้นได้อย่างไม่เต็ม
ประสิทธิภาพ
แท้จริงแล้วหากพิจารณาจากต้นทุนทางสังคมของเทศบาลต าบลปอภารแห่งนี้ จะพบได้ว่าอันที่จริง
ต าบลปอภารมีความพร้อมหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นผู้น าชุมชนที่เข้มแข็งที่ไม่มีปัญหาการท างานร่วมกันระหว่าง
ผู้น าท้องที่ ผู้น าท้องถิ่น มีปราชญ์ชาวบ้าน ที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล มีใจกว้างเปิดรับและพร้อมจะเรียนรู้สิ่งใหม่
ขณะที่คนในชุมชนก็ให้เกียรติผู้น าและพร้อมที่จะให้ความร่วมมือในการด าเนินกิจกรรมหากผู้น าร้องขอ จึงไม่
แปลกที่ต าบลปอภารมักจะได้รับกเลือกจากหน่วยงานราชการหลายแห่งเพื่อตัวแทนด าเนินโครงการหลายอย่าง
เรื่องของเศรษฐกิจในระดับชุมชนที่ดี มีวิสาหกิจชุมชนและมีตลาดนัดของต าบลขนาดใหญ่ อันเป็นต้นทุนที่ท า
ให้คนในชุมชนมีเวลาว่างมากพอที่จะท ากิจกรรมเพื่อร่วมกันคิดร่วมกันพัฒนาชุมชนต่อไป
อย่างไรก็ตาม การเลือกกิจกรรมเพื่อพัฒนาชุมชนให้มีความเข้มแข็งนั้นก็มีความส าคัญอย่างยิ่ง จาก
บทเรียนครั้งนี้ แสดงให้เห็นแล้วว่าการพัฒนาชุมชนพลเมืองเข้มแข็งในการส่งเสริมการเลือกตั้งสมานฉันท์และ
ไม่ซื้อสิทธิขายเสียง อาจมีประสิทธิภาพในทางปฏิบัติได้มากที่สุดเมื่อสถานการณ์ทางการเมืองเปิด และเมื่อคน
ในชุมชนมีความรู้มากพอในเรื่องความเป็นพลเมืองและความส าคัญของพลเมืองในการสร้างการเมืองที่ดีที่
โปร่งใสที่ส่งผลต่อชุมชนเข้มแข็งในระยะยาว เพราะความรู้ความเข้าใจดังกล่าวจะส่งผลต่อการเปิดใจรับ
กิจกรรมนี้ อย่างไรก็ตามการเสริมสร้างความรู้เรื่องความเป็นพลเมืองนั้น ควรเริ่มต้นจากเรื่องรอบตัวและไม่จู่
181