Page 199 - kpiebook62014
P. 199
เข้มแข็ง และกิจกรรมที่คนในชุมชนจะช่วยกันด าเนินการเพื่อส่งเสริมชุมชนและพลเมืองให้มีความเข้มแข็งตาม
เป้าหมายหรือนิยามชุมชนเข้มแข็งที่พวกตนได้ร่วมกันก าหนดไว้ ดังนั้น ทุกขั้นตอนกระบวนการเริ่มตั้งแต่การ
ร่วมกันก าหนดเป้าหมายชุมชนพลเมืองเข้มแข็งที่พึงปรารถนา จึงเป็นไปอย่างมีส่วนร่วมตั้งแต่แรกในทุก
ขั้นตอนกระทั่งลงมือปฏิบัติ มีการทบทวนแผน และลงมือปฏิบัติตามแผนที่มีการทบทวนอีกครั้ง โดยผู้วิจัย
คาดหวังว่ากระบวนการเหล่านี้ช่วยสร้างให้ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมเกิดความรู้ความตระหนักในความส าคัญในการมี
ส่วนร่วมของพลเมืองในการสร้างชุมชนที่เข้มแข็งตามที่สมาชิกในชุมชนพึงปรารถนา และน าสู่การเสริมสร้าง
ประชาธิปไตยที่มีคุณภาพได้ในท้ายที่สุด
กระบวนการตามกรอบการวิจัยข้างต้นผู้วิจัยได้ก าหนดไว้ 7 ขั้นตอนที่ส าคัญคือ เริ่มตั้งแต่ขั้นแรกการ
คัดเลือกพื้นที่เป้าหมาย ซึ่งในขั้นตอนนี้พบว่าไม่ประสบกับปัญหาใด เนื่องจากผู้วิจัยใช้วิธีการส ารวจข้อมูล
เบื้องต้นกับหน่วยงานที่มีความเกี่ยวข้องเพื่อระบุพื้นที่เป้าหมายที่อาจมีความขัดแย้งเกิดขึ้น โดยอ้างอิงตามผล
การส ารวจวรรณกรรมที่เกี่ยวข้องในเรื่องของการเลือกตั้งที่อาจน ามาสู่ความขัดแย้ง ดังนั้น ส านักงาน
คณะกรรมการการเลือกตั้งประจ าจังหวัดร้อยเอ็ด จึงเป็นหน่วยงานที่ผู้วิจัยเลือกเข้าไปพบเพื่อข้อข้อมูลซึ่งได้รับ
ความร่วมมือเป็นอย่างดี การเข้าหารือเพื่อเก็บข้อมูลเชิงลึกกับเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อน าข้อมูล
มาศึกษาเปรียบเทียบก่อนตัดสินใจเลือกพื้นที่ศึกษานั้น ก็ได้รับความร่วมมือจากผู้บริหารท้องถิ่นและเจ้าหน้าที่
เป็นอย่างดี จึงกล่าวได้ว่าวิธีการคัดเลือกพื้นที่เป้าหมายส าหรับด าเนินการส่งเสริมชุมชนเข้มแข็งโดยการเลือก
ปรึกษากับหน่วยงานราชการที่มีความเกี่ยวข้องอาจเป็นหนทางหนึ่งที่จะท าให้ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์
ประกอบการตัดสินใจ อย่างไรก็ตาม การปรึกษาหน่วยงานราชการเป็นเพียงวิธีการหนึ่งเท่านั้น การค้นหาพื้นที่
เป้าหมายอาจใช้วิธีการอื่นประกอบกัน อาทิ เริ่มจากการส ารวจข้อมูลจากองค์กรภาคประชาสังคม ผลการ
ศึกษาวิจัยหรืองานวรรณกรรมที่เกี่ยวข้องเพื่อต่อยอดปฏิบัติการ หรือสืบค้นจากข่าวและสารคดี ก็ท าได้เช่นกัน
ขั้นที่สองการชี้แจงท าความเข้าใจความเป็นมาและวัตถุประสงค์ของโครงการวิจัยแก่ผู้เกี่ยวข้อง
รายบุคคล ซึ่งในที่นี้ประกอบด้วยผู้น าท้องที่ ผู้น าท้องถิ่น ทั้งอดีตและปัจจุบัน รวมทั้งปราชญ์ชาวบ้านตาม
ค าแนะน าของผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและเจ้าหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป้าหมาย โดย
ใช้วิธีการสนทนากึ่งสัมภาษณ์นั้น พบว่าวิธีการนี้ประสบความส าเร็จในการสร้างความคุ้นเคยและสร้างความ
เข้าใจเบื้องต้นถึงความส าคัญของการด าเนินโครงการวิจัยให้แก่กลุ่มผู้น าชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังจะเห็น
ได้ว่า ผู้น าชุมชนส่วนใหญ่ตอบรับที่จะเข้าร่วมโครงการวิจัยเชิงปฏิบัติการนี้และให้ความสนใจเข้าร่วมการ
สนทนากลุ่มเพื่อวางแผนแนวทางการด าเนินโครงการและกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างชุมชนเข้มแข็ง ซึ่งเมื่อผู้น า
ชุมชนเห็นความส าคัญของการด าเนินโครงการนี้ในชุมชนและเป็นฝ่ายที่เอ่ยปากนัดหมายประชาชนเข้าร่วม
กิจกรรมแล้ว การด าเนินกิจกรรมจะได้รับการยอมรับให้มีปฏิบัติการในเวลาต่อมา แม้ว่าสถานการณ์นี้จะเป็น
เพียงใบเบิกทางและไม่อาจรับประกันได้ว่าโครงการจะประสบความส าเร็จ กระนั้นใบเบิกทางนี้ก็มีคุณค่าอย่าง
183
