Page 203 - kpiebook62014
P. 203

รณรงค์ผู้วิจัยพบว่ามีจ านวนน้อยมากเพียง 27 คน โดยใน 27 คนนี้มีศักยภาพแตกต่างกันไปอีกด้วย บ้างน าเสนอ

               เก่งบ้างน าเสนอไม่เก่ง ไม่กล้าแสดงความคิดเห็นแต่มีใจที่จะมีส่วนร่วมจึงท าให้การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นไม่
               หลากหลาย ประกอบกับ จิตอาสาในปฏิบัติการครั้งนี้มีจุดอ่อนที่มีผู้สมัครไม่ครบทุกกลุ่ม ขณะที่ บางหมู่บ้านมี

               ผู้สมัครเพียงคนเดียวท าให้ขาดทีมงานในการร่วมคิดและร่วมปฏิบัติการในพื้นที่ส่งผลต่อการขับเคลื่อนกิจกรรม

               รณรงค์ในรูปแบบต่างๆในเวลาต่อมา เป็นเพียงการท ากิจกรรมการ บอกต่อโครงการส่งเสริมชุมชนเข้มแข็งผ่าน
               การส่งเสริมการเลือกตั้งสมานฉันท์และไม่ซื้อสิทธิขายเสียงกับครัวเรือนในการดูแลของตนเท่านั้น ซึ่งไม่เพียง

               พอที่จะสร้างความเข้าใจเรื่องความส าคัญของการมีส่วนร่วมของพลเมืองในการส่งเสริมชุมชนเข้มแข็งผ่าน

               กิจกรรมนี้

                       ดังนั้น ผู้วิจัยจึงเพิ่มเติมขั้นตอนของการค้นหาจิตอาสาในระดับหมู่บ้านเข้าไปในตัวแบบ โดยอาจ
               ด าเนินการภายหลังจากได้จิตอาสามาแล้วชุดหนึ่ง ซึ่งในขั้นนี้ผู้วิจัยจะต้องลงพื้นที่ปฏิบัติการด้วยตนเอง เพราะ

               การค้นหาจิตอาสานั้นจะต้องเกิดจากความสมัครใจ เกิดจากความเข้าใจ การเปิดโอกาสให้จิตอาสาชักชวนกันมา

               เข้าร่วมกิจกรรมอาจไม่เพียงพอ แต่สามารถท าได้ แต่อีกวิธีการหนึ่งที่จะท าให้ได้จิตอาสาที่ตัดสินใจเข้าร่วม

               กิจกรรมเพราะตระหนักในความส าคัญของการสร้างความเป็นพลเมืองอย่างแท้จริงก็คือโดยการจัดเวทีให้ความรู้
               แก่กลุ่มประชาชนในระดับหมู่บ้านเพื่อค้นหาจิตอาสาให้ครบทุกหมู่บ้าน

                       ขั้นตอนต่อไปคือการก าหนดเป้าหมายร่วมกันและเสริมศักยภาพให้แก่จิตอาสา เพื่อก าหนดเป้าหมายใน

               การสร้างชุมชนเข้มแข็งร่วมกัน อันจะเป็นวัตถุดิบส าคัญในการขบคิดเกี่ยวกับแนวทางการส่งเสริมชุมชน
               เข้มแข็งตามแนวทางที่พึงปรารถนาต่อไป ในขั้นนี้ผู้วิจัยควรเริ่มต้นจากความต้องการของจิตอาสาว่าต้องการเห็น

               ชุมชนเข้มแข็งแบบใด และพวกเขาเห็นด้วยกับเป้าหมายการส่งเสริมชุมชนเข้มแข็งที่ผู้น าชุมชนเสนอไว้หรือไม่

               หรือว่ามีเป้าหมายอื่น กรณีที่เป้าหมายชุมชนเข้มแข็งที่จิตอาสาต้องการไปให้ถึงไม่แตกต่างจากสิ่งที่ผู้น าชุมชน
               เคยเสนอไว้ อาจด าเนินกระบวนการขั้นต่อไปในการก าหนดแนวทางและกิจกรรมส่งเสริมชุมชนเข้มแข็งร่วมกัน

               ต่อไปได้ทันที แต่หากแนวคิดของจิตอาสาแตกต่างเกี่ยวกับชุมชนเข้มแข็งแตกต่างไปจากสิ่งที่ผู้น าชุมชนเสนอ ก็

               อาจมีการปรับเปลี่ยนได้ เพราะท้ายที่สุดแล้วเป้าหมายเรื่องชุมชนเข้มแข็งก็สามารถมีหลายเป้าหมายและหลาย
               แนวทางที่จะไปให้ถึง เพียงแต่จะเริ่มต้นขับเคลื่อนจากเป้าหมายใดก่อนเท่านั้น

                       ด้วยเหตุนี้ ตัวแบบการสร้างชุมชนพลเมืองเข้มแข็งที่ผู้วิจัยเสนอไว้จึงมี 2 กรอบด้วยกัน ซึ่งอาจ

               ด าเนินการแยกกันหรือด าเนินการด้วยกันก็ย่อมได้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของพื้นที่ โดยกรอบที่ 1 เป็นกรอบ

               การขับเคลื่อนเพื่อนเสริมสร้างชุมชนเข้มแข็งผ่านกิจกรรมต่างๆ ซึ่งในช่วงนี้อาจเน้นที่กิจกรรมได้หลากหลาย ไม่

               จ าเป็นต้องเน้นที่กิจกรรมรณรงค์การเลือกตั้งสมานฉันท์และไม่ซื้อสิทธิขายเสียงเท่านั้น เพราะผลจากการศึกษา
               พบว่า ประเด็นทางด้านการเมืองเป็นเรื่องที่มีความอ่อนไหว หากน ามาขับเคลื่อนเป็นกิจกรรมหลักตั้งแต่เริ่มแรก

               ในการส่งเสริมชุมชนเข้มแข็ง อาจท าให้เกิดการแบ่งเป็น 2 กลุ่มของคนในชุมชนได้เพราะเรื่องทางการเมืองมัก




                                                                                                         187
   198   199   200   201   202   203   204   205   206   207   208