Page 201 - kpiebook62014
P. 201
นอกจากการค้นหาเป้าหมายและวางแผนร่วมกันแล้ว ในการสนทนากลุ่มผู้วิจัยได้พยายามสอดแทรก
แนวคิดเรื่องความเป็นพลเมืองและความเป็นประชาธิปไตยให้แก่ผู้น าชุมชนด้วย การที่ผู้วิจัยเลือกที่จะถ่ายทอด
ความรู้ให้แก่ผู้น าชุมชนด้วยวิธีการที่ไม่ได้เป็นทางการอย่างการอบรมนั้น เพราะมีมุมมองว่า ผู้น าชุมชนมี
พื้นฐานทางด้านการเมืองการปกครองอยู่ก่อนหน้าและสามารถสร้างความเข้าใจเรื่องราวความส าคัญของ
พลเมืองกับการมีส่วนร่วมทางการเมืองในการส่งเสริมชุมชนเข้มแข็งได้ไม่ยากจากประสบการณ์ของตน อย่างไร
ก็ตาม ผลปรากฎว่าการถ่ายทอดความรู้โดยการแทรกเข้าไปในการสนทนากลุ่มนั้นกระท าได้ แต่ผู้รับจะไม่ได้
รับรายละเอียดของเนื้อหามากนัก ดังนั้นจึงไม่อาจสร้างความมั่นใจในการน าเสนอความคิดต่อเรื่องดังกล่าวหรือ
ถ่ายทอดองค์ความรู้เรื่องดังกล่าวซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความต่อเนื่องในการแสดงออกซึ่งการมีส่วนร่วมในการ
ส่งเสริมชุมชนเข้มแข็งผ่านกิจกรรมที่ก าหนดร่วมกันในเวลาต่อมา ซึ่งในที่นี้คือการรณรงค์ส่งเสริมการเลือกตั้ง
สมานฉันท์และไม่ซื้อสิทธิขายเสียงเพื่อน าสู่ชุมชนพลเมืองเข้มแข็ง ประกอบกับ การที่ผู้น าชุมชนเป็นกลุ่มที่มี
ภาระงานมาก ทั้งยังมีมิติด้านการเมืองและการเป็นหน่วยงานราชการซ้อนทับอยู่ จึงท าให้มีปฏิบัติการต่างๆใน
กิจกรรมรณรงค์ส่งเสริมชุมชนพลเมืองเข้มแข็งน้อย การถ่ายทอดข้อมูลความส าคัญของการด าเนินโครงการวิจัย
เชิงปฏิบัติการของกลุ่มผู้น าชุมชนจึงเป็นไปในเชิงประชาสัมพันธ์ว่ามีการท ากิจกรรมใดบ้างไม่ได้ลงรายละเอียด
เชิงลึก ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะผู้น าชุมชนไม่ได้เข้ารับการอบรมเรื่องความเป็นพลเมืองและประชาธิปไตยอ
ย่างเป็นทางการดังที่ผู้วิจัยกล่าวไปแล้วจึงท าให้ยังไม่มีความเข้าใจเรื่องดังกล่าวอย่างลึกซึ้งถึงขั้นถ่ายทอดต่อใน
รายละเอียดได้ หรืออาจเป็นการเลือกน าเสนอข้อมูลเชิงกิจกรรมเพราะมีความเป็นกลางและไม่สุ่มเสี่ยงก็เป็นได้
ดังนั้น จึงไม่ควรคาดหวังให้กลุ่มผู้น าคือกลุ่ม “แกนน า” ด าเนินกิจกรรมรณรงค์ต่างๆแต่ควรเป็นค้นหา “จิต
อาสา” ผู้ที่เห็นความส าคัญของการด าเนินโครงการนี้และตั้งใจที่จะเสียสละเข้ามาขับเคลื่อนโครงการเป็นตัว
แสดงหลักในการด าเนินกิจกรรมรณรงค์ต่างๆเพื่อส่งเสริมชุมชนพลเมืองเข้มแข็ง
ด้วยเหตุนี้ ผู้วิจัยจึงได้ปรับเพิ่มขั้นตอนของตัวแบบในการเสริมสร้างชุมชนพลเมืองเข้มแข็งผ่านกิจกรรม
รณรงค์ส่งเสริมการเลือกตั้งสมานฉันท์และไม่ซื้อสิทธิขายเสียงในส่วนของการค้นหา จิตอาสา ตั้งแต่เริ่มต้น
กระบวนการและน า ขั้นตอนต่างๆที่ผู้วิจัยได้ด าเนินกับกลุ่มจิตอาสาในการขับเคลื่อนกิจกรรมเพื่อส่งเสริมชุมชน
เข้มแข็งขึ้นมาไว้ช่วงแรก ส่วนกิจกรรมที่จะต้องมีปฏิบัติการร่วมกับกลุ่มผู้น านั้นจะน าไปไว้ในส่วนท้าย โดย
พิจารณาถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมเมื่อก าหนดให้มีการเลือกตั้งแทน
การจัดเวทีประกาศเจตนารมณ์ แท้จริงแล้วกิจกรรมนี้เกิดขึ้นจากการมีส่วนร่วมคิดร่วมวางแผนของผู้น า
ชุมชน ที่ต้องการประกาศให้คนในชุมชนได้ทราบว่าต่อแต่นี้ไปเทศบาลต าบลแห่งนี้จะมีการรณรงค์กิจกรรม
ส่งเสริมการเลือกตั้งไม่ซื้อสิทธิขายเสียง เพื่อส่งเสริมชุมชนพลเมืองเข้มแข็ง จึงกล่าวได้ว่ากิจกรรมนี้ไม่ได้จัดไว้
ในแผนของผู้วิจัย แต่เป็นความต้องการของผู้วิจัยที่ต้องการสร้างการมีส่วนร่วมคิดร่วมด าเนินการของคนใน
ชุมชนให้มากที่สุด อย่างไรก็ตาม เมื่อด าเนินกิจกรรมนี้แล้วผู้วิจัยพบว่าขั้นตอนนี้มีความส าคัญและควรจัดไว้เป็น
185