Page 205 - kpiebook62014
P. 205

โอกาสให้ผู้สมัครได้มีการแสดงออกถึงเจตนารมณ์ในการส่งเสริมการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม ซึ่งอาจมี

               กิจกรรมได้หลายประการ อาทิ ก าหนดกติกาในการเลือกตั้งที่ไม่ซื้อสิทธิขายเสียงร่วมกันระหว่างผู้สมัคร การ
               แถลงนโยบาย การกล่าวค ามั่นสัญญาร่วมกัน เป็นต้น  ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้ ผู้วิจัยปรับจากกิจกรรมที่ผู้น าชุมชนได้

               เสนอไว้ ซึ่งในบางกิจกรรมผู้วิจัยได้มีปฏิบัติการเรียบร้อยแล้วและพบว่ากิจกรรมเหล่านี้หากน ามาปรับใช้เพื่อ

               ส่งเสริมการสร้างชุมชนเข้มแข็งผ่านการรณรงค์เลือกตั้งสมานฉันท์และไม่ซื้อสิทธิขายเสียงอย่างเหมาะสม จะ
               เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จิตอาสาและผู้น าชุมชนจะสามารถมีกิจกรรมร่วมกันได้เพื่อส่งเสริมชุมชนเข้มแข็งอย่าง

               ต่อเนื่อง

                       หากกิจกรรมดังกล่าวสามารถมีปฏิบัติการได้อย่างต่อเนื่องตามแผน และด าเนินการโดยจิตอาสาและ

               ผู้น าชุมชนเป็นหลัก โดยอาจร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับความส าคัญบทบาทของ
               พลเมืองในเชิงวิชาการเพื่อสร้างให้คนในชุมชนเห็นภาพความส าคัญในการแสดงบทบาทพลเมืองของพวกตนว่า

               เกี่ยวข้องกับชุมชนเข้มแข็งอย่างไรและมีความเกี่ยวข้องกับกิจกรรมรณรงค์ส่งเสริมการเลือกตั้งไม่ซื้อสิทธิขาย

               เสียงอย่างไรมากยิ่งขึ้น โดยผู้น าชุมชนและจิตอาสาเสริมในส่วนของประสบการณ์การมีส่วนร่วมของคนใน

               ชุมชนที่ผ่านมาเพื่อเป็นการยกตัวอย่างให้คนในชุมชนเข้าใจเนื้อหาสาระเชิงวิชาการมากขึ้น หรือเสริม
               รายละเอียดการท ากิจกรรมร่วมกัน จะช่วยให้กระบวนการเสริมสร้างความเข้าใจเรื่องความเป็นพลเมืองกับ

               บทบาทการมีส่วนร่วมในการส่งเสริมชุมชนพลเมืองเข้มแข็งผ่านการรณรงค์ไม่ซื้อสิทธิขายเสียงมีการแบ่ง

               บทบาทการถ่ายทอดข้อมูลอย่างชัดเจน ลดความทับซ้อน ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย ที่ส าคัญอาจส่งผล
               ต่อความเข้าใจเนื้อหาเชิงวิชาการของคนในชุมชนได้มากยิ่งขึ้น

                       อย่างไรก็ตาม ผู้วิจัยมีข้อสังเกตประการณ์หนึ่งเกี่ยวกับการจัดเวทีปราศรัย จากประสบการณ์การจัดเวที

               ปราศรัยผลงานและนโยบายที่คาดว่าจะจัดขึ้นในการเลือกผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ซึ่งไม่สามารถจัดขึ้นได้เนื่องด้วย
               เงื่อนไขหลายประการ อาทิ กฎหมายที่ไม่ได้ระบุชัดเจนว่าก าหนดให้มีหน่วยงานใด “ต้อง” จัดให้มีการปราศรัย

               นโยบายขึ้นเมื่อมีการเลือกตั้งระดับท้องที่ อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขที่ผู้วิจัยเห็นว่ามีความส าคัญมากที่สุดคือ “ความ

               เป็นการเมือง” ที่ส่งผลให้ท้องที่ตัดสินใจในนาทีสุดท้ายยกเลิกการจัดเวทีปราศรัย เนื่องจากหากจัดเวที เนื่องจาก
               หากมีการจัดเวทีปราศรัยขึ้นแล้วเมื่อผลแพ้ชนะออกมาจะส่งผลให้ฝ่ายท้องที่ถูกฟ้องร้องได้ในฐานะผู้จัดว่าใน

               เวทีปราศรัยนั้นเป็นการจัดโดยไม่เป็นธรรมแต่เป็นการส่งเสริมให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดได้คะแนนเสียง เป็นต้น ดังนั้น

               หากพื้นที่มีความประสงค์จัดให้มีเวทีปราศรัยขึ้นไม่ว่าจะเป็นในการเลือกตั้งระดับใด ฝ่ายท้องที่ ท้องถิ่น ควรมี

               การศึกษาข้อกฎหมายให้ชัดเจน กรณีกฎหมายไม่ได้ระบุไว้      ควรปรึกษาผู้รู้ว่ากระท าได้หรือไม่ แต่กรณีที่มี
               หน่วยงานที่รับผิดชอบชัดเจน ท้องที่ ท้องถิ่น หรือจิตอาสา ควรแจ้งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเป็นผู้ด าเนินการ

               แทนจะดีที่สุด อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้ “ความตั้งใจจริง” เป็นสิ่งที่ส าคัญที่สุด ที่จะขับเคลื่อนให้กิจกรรมรณรงค์

               ส่งเสริมการเลือกตั้งไม่ซื้อสิทธิขายเสียง เพื่อเสริมสร้างชุมชนสมานฉันท์เข้มแข็งเกิดขึ้นได้ในที่สุด




                                                                                                         189
   200   201   202   203   204   205   206   207   208   209   210