Page 208 - kpiebook62014
P. 208
ส่วนที่ 4 ข้อสังเกตและข้อเสนอแนะ
ผลการด าเนินโครงการวิจัยชุมชนพลเมืองเข้มแข็งผ่านการส่งเสริมการเลือกตั้งสมานฉันท์และไม่ซื้อสิทธิขาย
เสียงที่ผ่านมา ผู้วิจัยมีข้อสังเกตและมีข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาจากปฏิบัติการต่างๆที่ได้ด าเนินการมาทั้งใน
ส่วนของการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องความเป็นพลเมืองและการมีส่วนร่วมของพลเมืองในการส่งเสริม
ชุมชนเข้มแข็ง ผ่านวิธีการต่างๆ อาทิ การสนทนากลุ่ม การประชุมเชิงปฏิบัติการระดับหมู่บ้าน และการค้นหาจิต
อาสา รวมไปถึงการด าเนินกิจกรรมรณรงค์ส่งเสริมชุมชนพลเมืองเข้มแข็ง ดังต่อไปนี้
1. การเสริมความรู้แก่คนในชุมชนผ่านการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการยังคงเป็ นสิ่งส าคัญ แม้ผู้วิจัยจะ
พบว่าผู้ที่เข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการมีความรู้เพิ่มขึ้นไม่มากภายหลังการประชุม ทั้งนี้ส่วนหนึ่ง
อาจเป็นเพราะเงื่อนไขด้านพื้นฐานความรู้ความสนใจการอ่านออกเขียนได้เรื่องภาษาถิ่นและ
วัฒนธรรมที่มองว่าการให้เงินในการเลือกตั้งเป็นผลประโยชน์ที่แท้จริง เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ผล
การศึกษาพบว่ามีความเกี่ยวข้องกันระหว่างการเสริมสร้างความรู้ กับการสร้างความตระหนักถึง
ความส าคัญของพลเมืองและพฤติกรรมการมีส่วนร่วมทางการเมือง ดังนั้นการเสริมสร้างความรู้ยัง
เป็นกิจกรรมที่จ าเป็น อย่างไรก็ตาม กระบวนการเสริมสร้างความรู้นั้นจ าเป็นต้องด าเนินการอย่าง
ต่อเนื่องแต่ค่อยเป็นค่อยไป เพราะต้องค านึงว่ากลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ว่ามีพื้นฐานทางความรู้ที่
แตกต่างกัน จึงควรมีการออกแบบการอบรมให้ลดข้อจ ากัดเรื่องเวลา ความต่อเนื่อง ความใกล้ชิด
เรื่องของความแตกต่างด้านภาษาและวัฒนธรรม ลงให้ได้มากที่สุดซึ่งการพัฒนาวิทยากรแม่ไก่ที่มี
เวลาในการเผยแพร่ความรู้ อาทิ การพัฒนาศักยภาพให้แก่จิตอาสาเพื่อท าหน้าที่ถ่ายทอดความรู้
อย่างต่อเนื่องด้วยภาษาถิ่นและภายใต้วัฒนธรรมท้องถิ่นอาจเป็นหนทางหนึ่งที่อาจจะท าให้เกิด
ความต่อเนื่องได้
2. ท าให้เรื่อง “ความสุจริต” เป็นเรื่องใหญ่ที่คนในชุมชนให้ความส าคัญ ที่ผู้วิจัยเสนอเช่นนี้เพราะว่า
การสร้างชุมชนเข้มแข็งผ่านการรณรงค์ส่งเสริมการเลือกตั้งไม่ซื้อสิทธิขายเสียงโดยตรงนั้นมี
ข้อจ ากัดในหลายเรื่อง ทั้งเรื่องของข้อจ ากัดด้านกฎหมาย ข้อจ ากัดในการเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ข้อจ ากัด
ในเรื่องความเชื่อดั้งเดิม ส่งผลให้มีผู้ที่ “พร้อม” จะขับเคลื่อนกิจกรรมนี้น้อย ประกอบกับเมื่อไม่มี
การเลือกตั้งจึงท าให้คนในชุมชนไม่ใคร่สนใจกับการรณรงค์นี้นัก ดังนั้น ผู้วิจัยจึงเสนอว่าการแทรก
ความรู้ของผู้น าชุมชนในการประชุมหมู่บ้านทุกเดือนนั้น การที่เน้นเรื่องการเลือกตั้งสมานฉันท์ไม่
ซื้อสิทธิขายเสียงโดยตรงเพียงอย่างเดียวจะท าให้คนที่เข้าร่วมกิจกรรมเริ่มมองเป็นเรื่องที่ยังมาไม่ถึง
192