Page 204 - kpiebook62014
P. 204
เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์และความเชื่อเดิม กระนั้น หากจิตอาสาเห็นว่าควรด าเนินกิจกรรมรณรงค์การเลือกตั้ง
ไม่ซื้อสิทธิขายเสียงเป็นหลักตั้งแต่แรก ก็อาจท าได้ เพราะกระบวนการส าคัญคือการส่งเสริมชุมชนเข้มแข็ง และ
การที่จิตอาสารวมตัวกันเพื่อขับเคลื่อนกิจกรรมหนึ่งๆเพื่อแก้ไขปัญหาและพัฒนาชุมชนก็คือเงื่อนไขหนึ่งของ
ชุมชนที่เข้มแข็ง
อย่างไรก็ตาม ข้อสังเกตุของผู้วิจัยจากบทเรียนในการด าเนินการส่งเสริมชุมชนพลเมืองเข้มแข็งผ่าน
กิจกรรมรณรงค์เลือกตั้งไม่ซื้อสิทธิขายเสียงโดยทันทีพบว่าจะส่งผลให้ชุมชนแบ่งออกเป็น 2 ฝ่ายในช่วงแรก
นอกจากนั้นประเด็นนี้ยังเป็นประเด็นที่อ่อนไหวต้องตรวจสอบบริบททางสังคมการเมืองให้ดีว่าเปิดส าหรับการ
เคลื่อนไหวเรื่องนี้หรือไม่ ขณะที่ การเคลื่อนไหวในประเด็นนี้นักการเมืองท้องถิ่นและผู้น าชุมชนอาจมีข้อจ ากัด
ในการสนับสนุนอย่างเต็มที่ได้เนื่องด้วยข้อจ ากัดทางด้านกฎหมายและความเป็นการเมืองในพื้นที่
ด้วยเหตุนี้ กิจกรรมส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเรื่องความเป็นพลเมืองและการมีส่วนร่วมของพลเมืองใน
การสร้างชุมชนพลเมืองเข้มแข็งผ่านตัวอย่างกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจ าวันของคนในชุมชนเช่นการ
ประกอบอาชีพ การท าการเกษตร การพัฒนาชุมชน โดยเน้นประเด็นให้ชัดเจนว่าจะส่งเสริมประเด็นใดเพียง 1
ประเด็นก่อน อาทิ ความซื่อสัตย์ ระเบียบวินัย หรือการพึ่งตนเอง อันเป็นคุณสมบัติของการเป็นพลเมืองใน
ระบอบประชาธิปไตยมาขับเคลื่อนจะช่วยสร้างความเข้าใจแก่คนในชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าเพราะ
เข้าใจได้ง่ายกว่าและการเปิดใจรับกับประเด็นที่ไม่ “ขัดกับผลประโยชน์” จากค่านิยมเดิมเช่นการได้รับเงินหา
เสียงในฤดูเลือกตั้ง อาจท าให้ได้ง่ายกว่าการเปิดรับประเด็นทางด้านการเมือง แต่หากชุมชนมีความสนใจ
ขับเคลื่อนกิจกรรมรณรงค์การเลือกตั้งไม่ซื้อสิทธิขายเสียงก็อาจ “แทรก” ความรู้เรื่องการเลือกผู้แทนที่ดี และ
ความส าคัญของบทบาทพลเมืองในการส่งเสริมการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรมเพื่อน าสู่ชุมชนเข้มแข็งได้
จากนั้น หากชุมชนใดมีความสนใจที่จะขับเคลื่อนกิจกรรมรณรงค์ส่งเสริมการเลือกตั้งสมานฉันท์และ
ไม่ซื้อสิทธิขายเสียง อาจพิจารณาใช้ตัวแบบที่ผู้วิจัยเสนอไว้ในกรอบที่ 2 ต่อไปได้ โดยในขั้นนี้ ผู้วิจัยเสนอว่า
ควรเริ่มด าเนินการเมื่อมีการประกาศอย่างชัดเจนแล้วว่าจะเริ่มมีการเลือกตั้ง เพื่อให้เกิดกระแสและความสนใจ
จากนั้น การประสานความร่วมมือระหว่างจิตอาสาและผู้น าเป็นสิ่งส าคัญที่ขาดไม่ได้ โดยอาจจัดให้มีการพบปะ
แลกเปลี่ยนกันระหว่างจิตอาสาและผู้น าชุมชนถึงกิจกรรมต่างๆที่แต่ละฝ่ายกระท าผ่านมา จากนั้นร่วมกันก าหนด
เป้าหมายอีกครั้งเพื่อให้เกิดความชัดเจนในการก าหนดกิจกรรมและสลายความเป็นเจ้าของประเด็นเดิมและสร้าง
การเป็นเจ้าของประเด็นและกิจกรรมร่วมกันใหม่
ส าหรับกิจกรรมที่ผู้วิจัยเสนอไว้ในกรอบนี้ประกอบด้วย การจัดเวทีเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่อง
ความเป็นพลเมืองกับการมีส่วนร่วมทางการเมืองในการส่งเสริมชุมชนพลเมืองเข้มแข็งผ่านกิจกรรมรณรงค์
ส่งเสริมการเลือกตั้งไม่ซื้อสิทธิขายเสียง ในระดับหมู่บ้าน การจัดเวทีโซนหมู่บ้านเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้และ
สร้างกระแสการรณรงค์ส่งเสริมการเลือกตั้งไม่ซื้อสิทธิขายเสียงอย่างต่อเนื่อง และการจัดเวทีปราศรัยเพื่อเปิด
188