Page 195 - kpiebook62014
P. 195

จากผลการศึกษาข้างต้น ผู้วิจัยจึงมีข้อสังเกตต่อการพัฒนาการส่งเสริมการศึกษาและการจัดกิจกรรมเพื่อ

               ส่งเสริมความเป็นพลเมืองและน าสู่ชุมชนพลเมืองเข้มแข็งดังนี้
                       1.  การส่งเสริมการศึกษาเพื่อสร้างความเป็นพลเมืองนั้นต้องด าเนินการอย่างต่อเนื่อง อย่างเป็น

                          ธรรมชาติ ผ่านการใช้ภาษาท้องถิ่นและการยกตัวอย่างกิจกรรมหรือปัญหาใกล้ตัว : จาก

                          ประสบการณ์ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าการถ่ายทอดความรู้สู่คนในชุมชนโดยให้ผู้วิจัยหรือ

                          หน่วยงานภายนอกเป็นผู้ด าเนินการเพียงล าพัง หรือแม้แต่การให้ผู้น าชุมชนและจิตอาสาที่แม้เป็น

                          คนภายในชุมชนเป็นคนด าเนินการเพียงล าพังนั้นไม่มีประสิทธิภาพมากพอ  ดังปรากฏให้เห็นว่าทั้ง

                          สองฝ่ายต่างมีจุดแข็งและจุดอ่อนแตกต่างกัน ขณะที่ผู้วิจัยหรือหน่วยงานภายนอกมีจุดแข็งด้าน

                          วิชาการและความเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงซึ่งส่งผลต่อความรู้และความน่าเชื่อถือใน

                          ชุมชน แต่ผู้น าชุมชนและจิตอาสามีศักยภาพในการประยุกต์ค าอธิบายเชิงวิชาการผ่านประสบการณ์

                          ตรงและสามารถถ่ายทอดด้วยภาษาถิ่นซึ่งจะช่วยให้เข้าใจง่าย ดังนั้น การมีปฏิบัติการร่วมกัน

                          ระหว่างผู้วิจัยจากภายนอกที่มีความรู้เชิงวิชาการร่วมกับผู้น าชุมชน จิตอาสา และคนในชุมชนที่มี

                          ศักยภาพในการน าเสนอ อาจจะเป็นหนทางที่จะช่วยส่งเสริมและสร้างความรู้ความเข้าใจแก่คนใน
                          ชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด

                       2.  การแบ่งบทบาทหน้าที่กันอย่างชัดเจน : กรณีที่มีการจัดเวทีเผยแพร่ความรู้สู่ชุมชนนั้น เพื่อให้เกิด

                          ความร่วมมือระหว่างแกนน าชุมชนกับผู้วิจัยอย่างมีประสิทธิภาพ ควรมีการแบ่งงานกันอย่างชัดเจน

                          ว่าฝ่ายใดจะเสริมเรื่องใดโดยพิจารณาจากศักยภาพ ควรเป็นลักษณะของการเสริมทัพกันให้มาก

                          ยิ่งขึ้น ไม่ควรต่างฝ่ายต่างกล่าวถึงเรื่องที่ตนสนใจเพราะจะท าให้เรื่องที่น าเสนอในเวทีไม่เป็นระบบ

                          และขาดพลัง

                       3.  การสร้างแกนน าแต่เนิ่น : ผลจากปฏิบัติการส่งเสริมชุมชนพลเมืองเข้มแข็งที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่า

                          การค้นหาและสร้างแกนน าในชุมชนเป็นสิ่งที่มีความส าคัญอย่างยิ่ง ดังนั้น เพื่อให้เกิดความยั่งยืน

                          ผู้วิจัยจากภายนอกควรเน้นสร้างแกนน าที่มีศักยภาพและเติมเต็มองค์ความรู้ให้แก่พวกเขาเกิดความ

                          เข้าใจและสามารถถ่ายทอดได้ แม้ไม่อาจถ่ายทอดได้เป็นวิชาการได้ 100 เปอร์เซ็นต์แต่อย่างน้อยก็

                          สามารถถ่ายทอดความรู้ได้จากความเข้าใจ ด้วยความมั่นใจ เพราะสิ่งนี้จะส่งผลให้พวกเขาเกิดความ

                          ตระหนักในความส าคัญของการส่งเสริมความเป็นพลเมืองสู่คนในชุมชนอย่างแท้จริง อันจะส่งผล

                          ต่อการมีพฤติกรรมขับเคลื่อนกิจกรรมในชุมชนอย่างต่อเนื่อง
                       4.  สังคมน าการเมือง : ผลการศึกษาเรื่องการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องการมีส่วนร่วมของ

                          พลเมืองในการสร้างชุมชนพลเมืองเข้มแข็งผ่านกิจกรรมการเลือกตั้งสมานฉันท์และไม่ซื้อสิทธิขาย


                                                                                                         179
   190   191   192   193   194   195   196   197   198   199   200