Page 108 - kpiebook62008
P. 108
๗๗
การดำเนินธุรกิจในความเป็นจริง บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลทุกรายย่อมมีทรัพย์สินที่จะคิดค่าสึกหรอและค่า
เสื่อมราคา ในขณะที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเพียงบางรายเท่านั้นที่อาจมีหนี้สูญเกิดขึ้น ดังนั้น ลำดับศักดิ์
ของกฎหมายจึงแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของแต่ละเงื่อนไข หรือ กรณีค่ารับรองที่อาจพบได้ในบริษัทหรือห้าง
หุ้นส่วนนิติบุคคลทุกราย แต่โดยทั่วไปเป็นเพียงรายการเบ็ดเตล็ด ในการออกหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในเรื่อง
ดังกล่าว ประมวลรัษฎากรจึงกำหนดให้ออกเป็นกฎกระทรวงเท่านั้น
๑๔๑. หลักการและเหตุผลประการที่สอง เพื่อแสดงให้เห็นถึงลำดับศักดิ์ของกฎหมายที่มีความต่างกัน ในอันที่
จะตีความกฎหมายตามหลักการตีความว่า กฎหมายที่มีลำดับศักดิ์สูงกว่าย่อมขัดหรือแย้งและมีผลยกเลิกกฎหมาย
ที่มีลำดับศักดิ์ต่ำกว่า ในขณะเดียวกัน กฎหมายที่มีลำดับศักดิ์ต่ำกว่าก็ย่อมจะขัดหรือแย้งกฎหมายที่มีลำดับศักดิ์สูง
กว่ามิได้ มิฉะนั้น กฎหมายที่มีลำดับศักดิ์ต่ำกว่าจะตกเป็นโมฆะ
๑๒๙
๑๔๒. หลักการและเหตุผลประการที่สาม เพื่อให้เป็นไปตามลักษณะของภาษีอากรที่ดีในเรื่องของความสะดวก
(Simplicity) ที่ว่า ภาษีที่ดีจะต้องมีความสะดวกในการจัดเก็บ และสะดวกในการเสียภาษีของผู้เสียภาษีด้วย
รวมถึง เรื่องของความมีประสิทธิภาพ (Efficiency) และความยืดหยุ่น (Flexibility) ดังนั้น ในการออกกฎหมาย
ลำดับรองจะต้องคำนึงถึงปัจจัยในทางปฏิบัติด้วยว่า ในเรื่องใดที่ต้องการความยืดหยุ่นมาก จะต้องออกกฎหมาย
ลำดับรองประเภทใด เช่น ในการกำหนดสถานที่รับแบบแสดงรายการและรับชำระเงินภาษีอากรตามประมวล
รัษฎากรนั้น ให้อธิบดีกรมสรรพากรออกเป็นคำสั่งกรมสรรพากร (ท.ป.) เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้เสียภาษีอากร
และให้การบริหารการจัดเก็บภาษีอากรตามประมวลรัษฎากรมีประสิทธิภาพ โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา
๑๑ แห่งประมวลรัษฎากร
๑๓๐
๑๔๓. อย่างไรก็ดี ในเรื่องที่อาจส่งผลกระทบเป็นวงกว้างและอาจกระทบสิทธิของประชาชน ย่อมต้องผ่าน
ขั้นตอนและกระบวนการพิจารณาที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น เช่น ในเรื่องการยกเว้นรัษฎากร หรือการลดอัตราภาษีต่าง ๆ
ต้องตราเป็นกฎหมายระดับพระราชบัญญัติ พระราชกำหนดในกรณีเพื่อประโยชน์ในอันที่จะรักษาความมั่นคง
๑๒๙ สุเทพ พงษ์พิทักษ์, “๑๐๐ ถาม-ตอบ ความรู้เกี่ยวกับประมวลรัษฎากร,” หน้า ๑๐.
๑๓๐ มาตรา ๑๑ แห่งประมวลรัษฎากร “เว้นแต่จะมีบทบัญญัติหรืออธิบดีจะสั่งเป็นอย่างอื่น ให้นำเงินภาษีอากรไปเสีย ณ ที่ว่าการ
อำเภอ และการเสียภาษีอากรนั้นให้ถือว่าเป็นการสมบูรณ์เมื่อได้รับใบเสร็จรับเงินซึ่งนายอำเภอได้ลงลายมือชื่อรับเงินแล้ว”