Page 17 - kpiebook62006
P. 17

12


                  เป็นครอบครัวในสังคมประชาธิปไตยแล้ว มักจะเปิดโอกาสให้เด็กได้กล้าคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และกล้าแสดงออก

                  ในสิ่งที่แตกต่างออกไป โดยอยู่บนพื้นฐานของความมีเหตุมีผล ตลอดจนการส่งเสริมให้เด็กรู้จักถึงบทบาทหน้าที่

                  มีความรับผิดชอบต่อตนเอง ต่อครอบครัว และต่อสังคมจนกลายเป็นการด ารงชีวิตปกติ ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่

                  ช่วยขัดเกลา และน าไปสู่การพัฒนาเด็กให้มีความเป็นพลเมืองของประเทศตามระบอบประชาธิปไตยต่อไป

                                               2) ชุมชน ต้องพัฒนาพลเมืองในระดับชุมชนท้องถิ่นให้มีอ านาจในการ

                  จัดการตนเอง และลดการพึ่งพาจากส่วนกลาง โดยส่งเสริมการสร้างความรับผิดชอบให้เกิดขึ้นแก่พลเมืองในทุก

                  ระดับ และลดการผูกขาดอ านาจไว้ที่รัฐบาลส่วนกลาง ซึ่งไม่สามารถบริหารจัดการได้ในทุกเรื่องให้สอดคล้องกับ

                  วัฒนธรรม และวิถีชีวิตที่แตกต่างหลากหลายในแต่ละท้องถิ่น เป็นการสนับสนุนให้ชุมชนท้องถิ่นมีอิสระที่จะ

                  ออกแบบ วางแผนการพัฒนา และสร้างความเข้มแข็งด้วยตนเอง ทั้งในมิติของเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง

                  อันเป็นการกระจายภาระและความรับผิดชอบไปให้พลเมืองในชุมชน องค์กรท้องถิ่นช่วยกันดูแลและรับผิดชอบ

                  เป็นการสร้างประชาธิปไตยขั้นรากฐานของชาติจากชุมชนนั่นเอง

                                               3) โรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา มีความส าคัญต่อการบ่มเพาะและกล่อม


                  เกลาให้เด็กและเยาวชนสามารถเป็นพลเมืองของประเทศที่ดีได้การเมืองเป็นเรื่องที่ไม่สามารถแยกออกจาก
                  การศึกษาได้ การเมืองจะมีบทบาทส าคัญในการออกแบบและก าหนดทิศทางการศึกษาของประเทศว่าจะเป็น


                  อย่างไร และต้องการให้พลเมืองของประเทศนั้นเป็นแบบใด ในทางกลับกันการศึกษาก็เป็นฐานรากส าคัญของ
                  การเตรียมความพร้อมและสร้างพลเมืองของประเทศด้วยเช่นกัน นอกจากนั้นแล้ว สถาบันอุดมศึกษาที่มีคณะ


                  ครุศาสตร์ หรือคณะศึกษาศาสตร์ที่ต้องผลิตบัณฑิตที่เป็นผู้ประกอบวิชาชีพครูนั้น ต้องมีความเข้าใจในแนวคิด

                  และหลักการของการจัดการศึกษาเพื่อสร้างพลเมือง เนื่องจากครูผู้สอนจะเป็นกลไกส าคัญที่มีบทบาทในการ

                  สร้างพลเมือง และมีอิทธิพลอย่างมากต่อความเชื่อ ความคิด และทัศนคติของผู้เรียน ท้ายที่สุด ผู้วิจัยยังมี

                  ความเห็นอีกว่าการจัดการศึกษาในโรงเรียน/สถาบันการศึกษาต้องไม่ละเลยชุมชนและภูมิปัญญาท้องถิ่น ต้อง

                  ท าให้ผู้เรียนได้เรียนรู้วิถีชุมชน และต้องให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาของโรงเรียนในท้องถิ่นของตนเอง

                  อันสอดคล้องกับวิถีวัฒนธรรมประชาธิปไตย

                                        (1.3) หลักสูตรการจัดการศึกษา

                                               1) หลักสูตรการจัดการศึกษาในโรงเรียน/สถาบันการศึกษา ที่ผ่านมา

                  หลักสูตรการจัดการศึกษาที่จัดขึ้นนั้นล้วนมาจากการก าหนดโดยภาครัฐ แต่ไม่ได้เกิดจากการมีส่วนร่วมหรือ

                  ความตระหนักของคนในสังคม การจัดการศึกษาโดยโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาให้สอดคล้องกับการสร้าง

                  พลเมืองในระบอบประชาธิปไตย จึงต้องสร้างห้องเรียนให้เป็นแหล่งเรียนรู้ร่วมกันระหว่างผู้สอนกับผู้เรียนอย่าง

                  สร้างสรรค์ เน้นให้เกิดการมีส่วนร่วมแบบร่วมคิดร่วมลงมือท า ไม่ครอบง าความคิด รับฟังและเคารพต่อความ

                  คิดเห็นที่แตกต่าง รู้จักถกเถียงและอภิปรายโต้แย้งอย่างมีเหตุมีผล เพื่อให้เกิดความรู้และความคิดใหม่ ๆ จาก
   12   13   14   15   16   17   18   19   20   21   22