Page 17 - kpiebook62004
P. 17
บทบาทนานาชาติต่อกระบวนการสร้างสันติภาพในชายแดนใต้ของไทยและบางมุมมองต่อภาพอนาคต
เป็นการเน้นของผู้วิจัย) ไม่เพียงเท่านั้น คยส. ยังได้ตั้งค าถามต่อไปว่า “สังคมไทยและรัฐไทยควรมองบทบาท
และท่าทีขององค์ระหว่างประเทศเหล่านั้นอย่างไร? โดยเฉพาะเมื่อไม่สามารถจะกีดกันการมีส่วนเกี่ยวข้องกับ
องค์กรภายนอกในการจัดการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งได้” (เรื่องเดิม, น. 20-21) และเป็นค าถามที่งานวิจัยนี้
ให้ความสนใจอยากจะค้นคว้าหาค าอธิบายที่จะพอเป็นค าตอบให้สังคมไทยได้บ้างว่า ในเมื่อไม่อาจปิดกั้นความ
สนใจของนานาชาติที่ประสงค์เข้ามามีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาภายในของรัฐไทยได้ รัฐและสังคมไทยควรจัดวางที่
ทางและความสัมพันธ์กับตัวแสดงนานาชาติอย่างไรเพื่อให้กระบวนการแก้ไขปัญหาภายในได้รับประโยชน์จาก
ตัวแสดงเหล่านั้นให้มากที่สุด
ข้อสังเกตในรายงานของคณะท างานยุทธศาสตร์สันติวิธี มองด้านหนึ่งก็เป็นการดีที่มีความร่วมมือจาก
หลากหลายองค์กรและหน่วยงานที่ปรารถนาดีต่อประเทศไทย ในอีกด้านหนึ่งก็ท าให้เข้าใจได้ว่าสถานการณ์
ชายแดนใต้ของไทยซึ่งที่จริงเป็นปัญหาภายในประเทศแต่น่าจะมีความส าคัญต่อภาพอนาคตของสันติภาพไม่
เพียงแต่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เท่านั้นหากแต่เมื่อพิจารณาองค์กรและหน่วยงานต่าง ๆ ที่หยิบยื่น
มือเข้ามานั้นมาจากหลากหลายแหล่งที่อยู่นอกภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย
จากการส ารวจเบื้องต้นพบว่า มีประเทศตะวันตกบางประเทศที่ให้ความสนใจส่งตัวแทนเข้าไป
สังเกตการณ์ในพื้นที่ หรือแม้กระทั่งองค์กรความร่วมมืออย่าง The Organization of Islamic Cooperation
หรือ OIC (TPBS. 1 March 2018) หรือบางประเทศที่ให้การสนับสนุนทุนท างานในพื้นที่ชายแดนใต้ เช่น
ประเทศออสเตรเลีย สวิสเซอร์แลนด์ เยอรมัน ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป ค าถามที่น่าสนใจเบื้องต้นต่อบทบาทของ
ชาติต่าง ๆ ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาทั้งในรูปของการให้ทุนหรือการสนับสนุนด้านการท างานของ
หน่วยงานและองค์กรต่าง ๆ เหล่านั้นจึงน่าจะเป็นค าถามที่ถามต่อผู้แทนของชาติต่าง ๆ ตลอดจนองค์กรและ
หน่วยงานที่อยู่ภายใต้สังกัดของนานาชาติที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ความไม่สงบในชายแดนใต้ของไทย
ว่าสถานการณ์ดังกล่าวมีความหมาย ความส าคัญอย่างไรในมุมมองของพวกเขาเหล่านั้นจนถึงขั้นที่ตัดสินใจเข้า
มามีบทบาทไม่ทางใดก็ทางหนึ่งในความพยายามคลี่คลายสถานการณ์ในชายแดนใต้ของไทย และบทบาท
ข้างต้นส่งผลอย่างไรต่อกระบวนการสร้างสันติภาพ (Peace Process) ในพื้นที่ดังกล่าว
วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ.2557 สื่อหลายส านักของมาเลเซียรายงานข่าวการเดินทางเยือนมาเลเซียอย่าง
เป็นทางการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทยพร้อมคณะอีก 19 คน และมีรายงานการ
แถลงข่าวของนายนาจิบ ราซัก นากยกรัฐมนตรีมาเลเซียถึงผลการพบปะกันระหว่างผู้น าทั้งสองประเทศในครั้ง
นี้ว่า "ประเทศไทยยอมรับให้มาเลเซียเป็นประเทศที่มีบทบาทการสร้างสันติสุขในพื้นที่ชายแดนใต้” (อิสมะรู
ปายดะห์ ดอเลาะ. 1 ธันวาคม 2557) ในขณะที่ภายหลังจากมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองภายในมาเลเซีย
เมื่อปี พ.ศ. 2561 แล้วรัฐบาลมาเลเซียภายใต้ผู้น าคนใหม่ ดร.มหาธีร์ โมฮัมหมัดก็ยังยืนยันให้การสนับสนุนการ
พูดคุยต่อไปแม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้รับผิดชอบหลักในการพูดคุยของฝั่งมาเลเซียมาเป็นอดีตนายต ารวจ
สันติบาล ตัน สรี อับดุล ราฮิม บิน โมห์ด นูร์ (คม ชัด ลึก. 27 สิงหาคม 2561)
มาเลเซีย ถือเป็นอีกหนึ่งในบรรดาตัวแสดงจากภายนอกประเทศไทยที่มีบทบาทส าคัญในการคลี่คลาย
ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะในสถานการณ์ระลอกใหม่ที่ปะทุขึ้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 โดย
4