Page 16 - kpiebook62004
P. 16
บทบาทนานาชาติต่อกระบวนการสร้างสันติภาพในชายแดนใต้ของไทยและบางมุมมองต่อภาพอนาคต
ข้อมูลอีกด้านสะท้อนความเห็นต่อการแก้ไขปัญหาด้วยกระบวนการพูดคุยสันติภาพจากการส ารวจ
ความคิดเห็นประชาชนเกี่ยวกับการสร้างสันติภาพชายแดนใต้ 5 ครั้งพบว่ามีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 43.7 ที่
ประชาชนรู้สึกว่าสถานการณ์เหมือนเดิม (เครือข่ายวิชาการ Peace Survey, 2562: 106) ไม่ได้ดีขึ้นเท่าไรนัก
กระนั้น ความคิดเห็นของประชาชนส่วนใหญ่ยังคงให้ความส าคัญกับการแก้ไขปัญหาด้วยการไม่ใช้ความรุนแรง
และการพูดคุยสันติภาพดูจะเป็นเครื่องมือและกลไกที่ส าคัญ โดยร้อยละ 55 สนับสนุนให้ใช้การพูดคุยเจรจา
เป็นแนวทางแก้ปัญหา (เครือข่ายวิชาการ Peace Survey, 2562: 109) ที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้นเป็นภาพรวม
ที่น ามาสู่การวิจัยซึ่งจะกล่าวต่อไป
1.2 ควำมส ำคัญของกำรวิจัย
ชาญชัย ชัยสุโกศล (2554: 8) กล่าวไว้อย่างน่าสนใจภายหลังจากที่สถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัด
ชายแดนภาคใต้ของไทยอุบัติขึ้นครั้งใหม่ในปี พ.ศ. 2547 ว่าเป็น “ปัญหาที่มีความซับซ้อน” ขณะเดียวกันก็
ชี้ให้เห็นว่ามี “องค์กรและหน่วยงาน” ต่าง ๆ ที่ “กรูกันเข้ามา” เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการแก้ไข
สถานการณ์ความขัดแย้งในชายแดนใต้ของไทย หากแต่ท่าทีที่ได้รับการตอบรับจากรัฐไทยกลับมิได้มีท่าทีที่จะ
เปิดรับเท่าใดนัก ยิ่งกว่านั้นส าหรับตัวแสดงบางชาติบางประเภท ก็อาจได้รับการปฏิเสธจากรัฐไทย เป็นต้น
กรณีที่นายกรัฐมนตรีอานันท์ ปันยารชุน ได้ตอบกลับเมื่อมีสื่อหนังสือพิมพ์ชาวอเมริกันได้ตั้งค าถามเชิงคาดหวัง
ต่อบทบาทในอนาคตกรณีว่าสหรัฐฯ จะเข้ามามีบทบาทในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งรุนแรงในชายแดนใต้
ของไทย ค าตอบของนายกรัฐมนตรีขณะนั้นซึ่งเป็นอดีตนักการทูตคนส าคัญของไทยมาก่อน คือ “บอกให้พวก
เขาอยู่ห่าง ๆ ไปเลยไป” (Tell them to stay the hell out of here) (แมตธิว, 2551: 475) ค ากล่าวของ
อดีตนายกรัฐมนตรีบ่งเป็นนัยว่า รัฐไทยอาจไม่ชื่นชอบนักที่จะให้ประเทศอื่น ๆ เข้ามาเกี่ยวข้องกับปัญหา
ชายแดนใต้ซึ่งเป็นปัญหาภายในประเทศ กระนั้น ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในรายงานการส ารวจเบื้องต้นของ
คณะท างานยุทธศาสตร์สันติวิธี (คยส.) (2561) กลับชี้ให้เห็นข้อมูลอีกด้านเมื่อความรุนแรงยืดเยื้อเรื้อรังมากว่า
ทศวรรษ รายงานดังกล่าวแสดงถึงตัวแสดงจ านวนมากและบทบาทของนานาชาติที่เข้ามาเกี่ยวพันกับการ
แก้ปัญหาชายแดนใต้ และแน่นอนว่าหนึ่งในนั้นเป็นหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา คือ USAID รวมอยู่ด้วย
ดังนั้น การปฏิเสธความเกี่ยวข้องจากนานาชาติอาจจะไม่สามารถท าได้โดยง่ายอีกต่อไป หากแต่อาจต้องคิด
ทบทวนว่าจะหาทางที่จะเปิดรับอย่างไรจึงจะเป็นผลดีต่อรัฐไทยมากกว่า
ย้อนกลับไปพิจารณาข้อสังเกตของชาญชัยข้างต้นส าคัญ นัยหนึ่งแสดงให้เห็นว่า ประเด็นปัญหาใน
ชายแดนใต้ไม่ได้ถูกจ ากัดความรับรู้เฉพาะภายในประเทศเท่านั้น แม้ว่ารัฐบาลไทยและสังคมนานาชาติจะ
มองเห็นและยอมรับว่าเป็นปัญหาภายในประเทศก็ตามแต่การที่นานาชาติให้ความสนใจย่อมชี้ให้เห็นว่า
สันติภาพหรือความขัดแย้งในชายแดนใต้ของไทยมีนัยยะส าคัญต่อสังคมโลกไม่น้อย ดังที่คณะท างาน
ยุทธศาสตร์สันติวิธี (คยส.) ได้กล่าวไว้ว่า ความรุนแรงภาคใต้ของไทยเป็นปัญหาที่ “นานาชาติสนใจ” และมี
สถานะเป็น “ปัญหาสากล” มาตั้งแต่ต้น (คณะท างานยุทธศาสตร์สันติวิธี, 2559, น. 20 ในเครื่องหมายค าพูด
3