Page 18 - kpiebook62004
P. 18

บทบาทนานาชาติต่อกระบวนการสร้างสันติภาพในชายแดนใต้ของไทยและบางมุมมองต่อภาพอนาคต




               แสดงบทบาทเป็นผู้อ านวยความสะดวก (Facilitator)  และไม่เพียงการเข้ามามีบทบาทในการคลี่คลาย

               สถานการณ์เฉพาะในกรณีชายแดนใต้ของไทยเท่านั้น หากแต่ในการพูดคุยเกี่ยวกับการสร้างสันติภาพใน

               ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเฉพาะในความขัดแย้งทางชาติพันธุ์ 2 แห่งคือ ในภาคใต้ของฟิลิปปินส์และ
               ในภาคใต้ของไทย แม้ว่าเสียงส่วนหนึ่งของฟิลิปปินส์จะมีข้อค าถามเกี่ยวกับการท าหน้าที่เป็นผู้อ านวยความ

               สะดวกให้กับคู่ขัดแย้งอยู่บ้างว่า มาเลเซียจะท าหน้าที่เป็น “นายหน้า (Broker)” ที่ซื่อสัตย์ตรงไปตรงมาในการ

               อ านวยความสะดวกให้คู่ขัดแย้งจริงหรือ (Na Thalang, 2017) รวมถึงข้อครหาและความไม่พอใจในการท า
               หน้าที่ของรัฐบาลมาเลเซียในกรณีความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลฟิลิปปินส์กับกลุ่มแนวร่วมขบวนการปลดปล่อย

               อิสลามโมโร (MILF) (Franco, 2013) แต่บทบาทของมาเลเซียก็ได้รับการยอมรับจากสังคมนานาประเทศ
               พอควรในการท าหน้าที่เป็นผู้อ านวยความสะดวกในกระบวนการสร้างสันติภาพ อย่างน้อยข้อตกลงกรอบการ

               พูดคุยสันติภาพ Framework Agreement on the Bangsamoro (FAB) เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2555

               ระหว่างรัฐบาลฟิลิปปินส์ กับ กลุ่ม MILF ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ารัฐบาลมาเลเซียมีส่วนส าคัญอย่างยิ่งในความส าเร็จ
               ดังกล่าว ครั้นเมื่อหันมาพิจารณากรณีการเข้ามาเกี่ยวพันกับความขัดแย้งในชายแดนใต้ของไทยในฐานะที่เป็นผู้

               อ านวยความสะดวก (Facilitator) ให้กับกระบวนการพูดคุยสันติสุข (Peace Talk) อย่างเป็นทางการก็ยิ่งเพิ่ม
               น้ าหนักให้แก่การศึกษาว่าอะไรเป็นเงื่อนไขที่ท าให้มาเลเซียท าหน้าที่เป็นผู้อ านวยความสะดวกให้กับการเจรจา

               พูดคุยเพื่อแก้ปัญหาในชายแดนใต้ของฟิลิปปินส์ที่มีความขัดแย้งยืดเยื้อเรื้อรังมาถึง 40 ปี (Harras, 1995)

               สามารถบรรลุผลส าเร็จในการเจรจาได้เช่นนั้น ในขณะที่บทบาทของชาติอื่น ๆ ที่เข้ามาเกี่ยวพันกับ
               กระบวนการสร้างสันติภาพชายแดนใต้ไม่ได้มีบทบาทในส่วนนี้โดยตรง

                       ความน่าสนใจดังกล่าวได้รับการยืนยันอย่างน้อยจากวันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2556  แถลงการณ์ของ

               ฮัสซัน ตอยิบ ซึ่งอ้างว่าเป็นตัวแทนกลุ่มบีอาร์เอ็นได้แถลงเรียกร้องให้มีมาเลเซียเป็น “คนกลาง” ในการเจรจา
               สันติภาพกับรัฐบาลไทยมิใช่เป็นเพียง “ผู้อ านวยความสะดวก” ในการพูดคุยเท่านั้น (ศูนย์ข้อมูลมติชน, 2556:

               143-144) ข้อเรียกร้องดังกล่าว เบื้องต้นแสดงให้เห็นว่าบีอาร์เอ็นให้ความไว้วางใจต่อรัฐบาลมาเลเซียอย่างมี
               นัยยะส าคัญ ต่อมาวันที่ 29 เมษายน 2556 คณะพูดคุยจากฝ่ายไทยและผู้เกี่ยวข้องมีก าหนดนัดหมายพูดคุย

               กับคณะของบีอาร์เอ็นในสถานที่ไม่เปิดเผยแห่งหนึ่งในมาเลเซีย และต่อมาในปี พ.ศ.2557 รัฐบาลไทยประกาศ

               ยอมรับให้มาเลเซียเป็นผู้อ านวยความสะดวกในการพูดคุยสันติสุข
                       ค าถามส าคัญที่งานวิจัยชิ้นนี้ต่อบทบาทของมาเลเซียในการเป็นผู้อ านวยความสะดวกให้กับการพูดคุย

               สันติสุข (Peace Talk) ระหว่างรัฐบาลไทยกับกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐ ตั้งแต่เริ่มต้นที่การพูดคุยอย่างไม่เปิดเผย
               มาก่อนหน้าที่จะมีการพูดคุยกับบีอาร์เอ็นในปี 2556 จนถึงมาราปาตานีในปัจจุบัน เริ่มต้นและด าเนินไป

               อย่างไร และบนเงื่อนไขปัจจัยใดที่ท าให้มาเลเซียได้รับการยอมรับจากทั้งสองฝ่ายให้ท าหน้าที่เป็นผู้อ านวย

               ความสะดวกในการพูดคุยดังกล่าวแทนที่จะเป็นหน่วยงานหรือองค์กรนานาชาติอื่นที่เข้ามามีบทบาทต่อการ
               แก้ไขปัญหาในพื้นที่ชายแดนใต้หลายองค์กร และมาเลเซียเองจะมีส่วนช่วยให้กระบวนการพูดคุยสันติภาพ

               เดินหน้าไปสู่จุดหมายปลายทางของสันติภาพได้มากน้อยเพียงใด  การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองมาเลเซียหลัง

               การเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2561 ซึ่งส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการเมืองภายใน

                                                            5
   13   14   15   16   17   18   19   20   21   22   23