Page 150 - kpiebook62004
P. 150

บทบาทนานาชาติต่อกระบวนการสร้างสันติภาพในชายแดนใต้ของไทยและบางมุมมองต่อภาพอนาคต




                           บริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. 2555-2557 ของส านักงานสภาความมั่นคง

                           แห่งชาติ ซึ่งผ่านกระบวนการจัดท านโยบายที่รับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วนอีกด้วย

                                ประการที่สอง เนื อหาที่ทั งสองฝ่ายมีความเห็นร่วมกันนี  สะท้อนให้เห็นถึงการปรับตัวเข้า
                           หากันในระดับหนึ่ง ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อการท างานร่วมกันต่อไป กล่าวคือ รัฐบาลไทยได้

                           ยอมรับถึงการด ารงอยู่ของบีอาร์เอ็นและยอมรับให้มาเลเซียท าหน้าที่เป็นผู้อ านวยความสะดวก

                           ในการพูดคุย ในขณะที่บีอาร์เอ็นก็ไม่ปฏิเสธที่จะพูดคุยภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญแห่ง
                           ราชอาณาจักรไทย  (เน้นโดยผู้วิจัย)

                                ประการที่สาม ทั งสองฝ่ายตระหนักว่าสันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้จะเกิดขึ นได้
                           ส่วนหนึ่งต้องได้รับการสนับสนุนส่งเสริมจากประเทศมาเลเซีย อันเนื่องมาจากความใกล้ชิดกัน

                           ทางภูมิศาสตร์ ความคล้ายคลึงกันของลักษณะสังคมวัฒนธรรมระหว่างประเทศมาเลเซียกับ

                           จังหวัดชายแดนภาคใต้ และความสามารถในการติดต่อประสานงานกับกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐ
                                ประการที่สี่ ด้วยความที่เป็นฉันทามติเบื องต้นที่ทั งสองฝ่ายเห็นร่วมกัน และเป็นเพียงการ

                           แสดงเจตนาที่จะแสวงหาทางออกด้วยการพูดคุยกันต่อไปเท่านั น จึงอาจจะท าให้ยังไม่มีเนื้อหาที่
                           ระบุถึงแนวทาง กระบวนการ และกรอบเวลาของการพูดคุยที่เป็นรูปธรรม...

                                ประการที่ห้า ทั งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะใช้ค าว่าการพูดคุย (Dialogue) มากกว่าการ

                           เจรจา (Negotiation) ซึ่งท าให้แต่ละฝ่ายได้มีพื นที่และรู้สึกสะดวกใจที่จะส ารวจความเป็นไปได้
                           ในการท างานร่วมกันเบื องต้นก่อนโดยไม่จ าเป็นต้องมีข้อผูกมัดใดๆ ที่แข็งตัวจนเกินไป ทั งนี  ในแง่

                           ของความหมายของค าทั งสองนั นก็มีนัยที่แตกต่างกัน กล่าวคือ การพูดคุย (Dialogue) ต่างจาก

                           การเจรจา (Negotiation) ตรงที่การพูดคุยจะมุ่งเน้นที่การท าความเข้าใจมุมมองความคิดและ
                           ความรู้สึกของกันและกันโดยไม่จ าเป็นต้องมีข้อตกลงที่เป็นทางการหรือข้อผูกมัดใดๆ ระหว่างกัน

                           ในขณะที่การเจรจาจะมุ่งเน้นที่การหาข้อตกลงที่ยอมรับได้ร่วมกันเป็นหลัก (คณะท างานพื นที่
                           กลางสร้างสันติภาพจากคนใน, 10 มีนาคม 2556)



                        2)  เรื่องความท้าทายของกระบวนการสันติภาพ ซึ่งสังคมไทยและผู้เกี่ยวข้องพึงตระหนักว่า
                                ...จากประสบการณ์กระบวนการสันติภาพทั่วโลกโดยส่วนใหญ่แล้ว ภายหลังจากการลง

                           นามในข้อตกลงสันติภาพเบื องต้น (เน้นโดยผู้วิจัย) เป็นที่คาดการณ์ได้ว่าปรากฏการณ์ความ
                           รุนแรงรายวันจะยังคงมีอยู่ ต่อเมื่อกระบวนการพูดคุยด าเนินไประยะหนึ่งจนกระทั่งมี

                           ความก้าวหน้าที่เป็นรูปธรรมสัมผัสได้ ความรุนแรงอันเกิดจากการปะทะต่อสู้กันระหว่างทั งสอง

                           ฝ่ายจึงจะเริ่มเบาบางลง
                                ...การท าฉันทามติร่วมในครั งนี เกิดขึ นอย่างรวดเร็ว ท าให้มีความไม่ชัดเจนว่าผู้เกี่ยวข้อง

                           แต่ละฝ่ายได้มีกระบวนการหารือและเตรียมความพร้อมก่อนที่จะลงนามมากน้อยเพียงใด ซึ่ง





                                                           106
   145   146   147   148   149   150   151   152   153   154   155