Page 68 - kpiebook62002
P. 68
เมื่อพิจารณาการด าเนินการตามยุทธศาสตร์ 5Ps ในการต่อต้านการค้ามนุษย์ของไทยในแรงงาน
ประมงนั้น ในเชิง Policy ไทยได้จัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจ คณะกรรมการนโยบาย ก าหนดหน่วยงานปฏิบัติการทาง
ทะเลและชายฝั่ง รวมทั้งศูนย์ควบคุมและให้บริการเรือ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติไทยได้ออกค าสั่งที่
10/2558 เรื่อง การแก้ไขปัญหาการท าการประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (Illegal,
Unreported and Unregulated Fishing: IUU Fishing) จัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจที่ขึ้นตรงกับนายกรัฐมนตรีโดย
เรียกว่า “ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการท าการประมงผิดกฎหมาย” (ศปมผ.) (Command Center for
Combating Illegal Fishing: CCCIF) โดยมีผู้บัญชาการทหารเรือเป็นผู้บัญชาการศูนย์ มีโครงสร้างการ
ปฏิบัติการประกอบด้วย (1) คณะกรรมการนโยบายแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์และการท าประมงผิดกฎหมาย
ก าหนดนโยบายและแนวทางปฏิบัติในระดับรัฐบาล (2) กองทัพเรือและศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษา
ผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ปฏิบัติการทางทะเลและชายฝั่งและปฏิบัติการร่วมกับหน่วยงานอื่นที่
เกี่ยวข้อง และ (3) ศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้า - ออก (Port In - Port Out: PIPO Controlling Center) และ
ศูนย์ให้บริการและอ านวยความสะดวกแก่เรือประมงแบบเบ็ดเสร็จ (Fishing One Stop Service)
ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการท าการประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) จัดท าและก ากับดูแลการปฏิบัติให้
เป็นไปตามแผนปฏิบัติการแห่งชาติในการแก้ปัญหาการท าการประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การ
ควบคุม (Thailand’s National Plan of Action to Prevent, Deter and Eliminate IUU Fishing: NPOA
- IUU) ด าเนินงานท าความเข้าใจกับสหภาพยุโรป อีกทั้งยังควบคุม สั่งการ ก ากับดูแล และประสานการ
ปฏิบัติการส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงเกษตร และสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย
กระทรวงแรงงาน ส านักงานต ารวจแห่งชาติ
เมื่อพิจารณาการด าเนินการตามหลัก 3Ps ได้แก่ Prosecution (การด าเนินคดีและบังคับใช้กฎหมาย)
Protection (การคุ้มครอง) และ Prevention (การป้องกัน) จากการสรุปของกรมยุโรป กระทรวงการ
ต่างประเทศ (2561) จะเห็นได้ว่า ในด้าน Prosecution กฎหมายอย่างพระราชก าหนดการประมง พ.ศ. 2558
(ค.ศ. 2015) ถือเป็นเครื่องมือที่ส าคัญที่สุดซึ่งเพิ่มโทษและก่อให้เกิดการบังคับคดีอย่างเข้มงวด โดยก าหนดโทษ
ปรับการใช้แรงงานผิดกฎหมายบนเรือประมงต่อหัวที่สูงมาก ควบคู่กับการบังคับใช้กฎหมายด้านแรงงานเพื่อ
ป้องกันและปราบปรามการน าแรงงานผิดกฎหมายมาใช้บนเรือประมง ในช่วง ค.ศ. 2017-2018 ไทยจับกุม
และด าเนินคดีกว่า 4,240 คดี ทั้งคดีแรงงานและคดีประมง โดยเป็นการด าเนินคดีค้ามนุษย์ในภาคประมงกว่า
85 คดี ผู้ต้องหาถูกพิพากษาจ าคุกไปแล้วกว่า 50 ราย โดยมีโทษจ าคุกสูงสุดถึง 14 ปี และมีโทษปรับสูงสุด 2.5
ล้านบาท และริบเรือ
ด้าน Protection ในเรื่องแรงงานแรงงานอุตสาหกรรมประมงภายในประเทศ กระทรวงแรงงานถือ
เป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนการแก้ปัญหาและออกมาตรการเข้มงวดมากขึ้นในเรื่องการจ่าย
ค่าตอบแทนของนายจ้างต่อแรงงาน ให้บริษัทจัดหาแรงงานขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้อง การเปลี่ยนนายจ้าง การ
ท าสัญญาที่ต้องมีภาษาของลูกจ้างให้ลูกจ้างเก็บไว้อีก 1 ฉบับ (สถานีข่าวเนชั่น, 2561) นอกจากนี้รัฐบาลไทย
ท างานร่วมกับองค์การนอกภาครัฐ จัดตั้งศูนย์ร่วมบริการช่วยเหลือแรงงานต่างด้าวใน 10 จังหวัด เฉพาะในปี
[52]