Page 69 - kpiebook62002
P. 69

2017 ได้ให้การช่วยเหลือแรงงานต่างด้าวทั้งหมด 57,498 ราย เพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า เมื่อเทียบกับปี 2016 และมี

               ช่องทางร้องเรียนต่างๆ อาทิ บริการสายด่วน 4 สาย ส าหรับคุ้มครองแรงงานและให้บริการข้อมูลข่าวสารแก่ผู้
               หางานท า รับเรื่องราวร้องทุกข์ ให้บริการเป็นภาษาประเทศเพื่อนบ้านโดยมีผู้ใช้บริการในปี 2017 มากขึ้นถึง

               รวมกว่า 130,000 ราย โดยเป็นการแจ้งเบาะแสการค้ามนุษย์ และน าไปสู่การด าเนินคดีกว่า 60 ราย

                       ด้าน Prevention มีกลไกที่ใช้ในการรับมือปัญหา ได้แก่ ศูนย์ประสานแรงงานประมงใน 7 จังหวัดน า
               ร่อง ได้แก่ สมุทรสาคร ระยอง ตราด ชุมพร สงขลา ระนอง และสตูล และศูนย์แรกรับเข้าท างานและสิ้นสุด

               การจ้างจ านวน 4 แห่งตามแนวเขตชายแดน ได้แก่ ตาก สระแก้ว หนองคาย และมุกดาหาร ในเรื่องแรงงาน

               บังคับมีมาตรการใหม่หลายด้าน เช่น การออกหนังสือคนประจ าเรือให้กับแรงงานต่างด้าวกว่า 70,600 ราย
               การก าหนดให้เจ้าของเรือจัดท าหนังสือสัญญาจ้างจ านวน 2 ฉบับ โดยมอบให้ลูกจ้างเก็บไว้ 1 ฉบับ การ

               ก าหนดให้นายจ้างจ่ายค่าตอบแทนเป็นรายเดือนผ่านบัญชีธนาคาร ซึ่งมีแรงงานประมงที่ได้รับค่าตอบแทนผ่าน

               บัญชีธนาคารแล้วประมาณเกือบ 5,000 ราย การก าหนดให้การยึดเอกสารประจ าตัวของแรงงานเป็นความผิด
               ตามกฎหมายค้ามนุษย์ การออกกฎหมายจัดระเบียบบริษัทจัดหางาน โดยห้ามเรียกเก็บค่านายหน้าจาก

               แรงงานและให้บริษัทมาขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องซึ่งมาขอขึ้นทะเบียนแล้วกว่า 100 บริษัท การก าหนด

               หลักเกณฑ์ให้แรงงานสามารถเปลี่ยนนายจ้างได้อย่างชัดเจนโดยเฉพาะในภาคประมง โดย ณ สิ้นปี 2017 มี
               แรงงานต่างด้าวยื่นขอเปลี่ยนนายจ้างแล้วมากกว่า 100,000 ราย การผ่อนปรนเรื่องบัตรชมพูไม่ให้ยึดติดกับ

               นายจ้างและออกกฎหมายห้ามใช้แรงงานอายุต่ ากว่า 18 ปีในเรือประมงและโรงงานแปรรูปอาหารทะเลเมื่อปี

               2016 นอกจากนั้นในปี 2017 มีการสั่งปิดโรงงานที่พบการใช้แรงงานเด็กจ านวน 3 โรง และอยู่ระหว่างการ
               ด าเนินคดีกับเจ้าของโรงงาน

                       ศูนย์แรกรับเข้าท างานและสิ้นสุดการจ้างที่จัดตั้งขึ้นนี้ท าหน้าที่จัดอบรมให้ความรู้ในด้านต่างๆ แก่

               แรงงานต่างด้าวซึ่งรวมถึงแรงงานในภาคประมง ตรวจคัดกรองว่าแรงงานต่างด้าวมีนายจ้างจริงตรงตามสัญญา
               จ้าง ไม่ได้ถูกชักจูง หลอกลวง เฉพาะในปี 2017 ได้จัดอบรมให้ความรู้แก่แรงงานต่างด้าวทั้งหมดกว่า 250,000

               ราย พร้อมทั้งแจกเอกสารคู่มือส าหรับแรงงานต่างด้าว ซึ่งให้ความรู้เกี่ยวกับประเทศไทย สัญญาจ้าง สิทธิ

               ประโยชน์ ความปลอดภัย กฎหมายและข้อห้าม รวมทั้งการขอรับความช่วยเหลือในประเทศไทย
                       ในเรื่องกฎหมาย ไทยมีจุดมุ่งหมายที่จะแก้ไขปัญหาแรงงานบังคับในภาคประมง โดยอยู่ระหว่างการ

               จัดท าร่างพระราชบัญญัติป้องกันและขจัดการใช้แรงงานเกณฑ์หรือแรงงานบังคับ พ.ศ. .... เพื่อรองรับการให้

               สัตยาบันพิธีสารภายใต้อนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ 29 ว่าด้วยแรงงานบังคับ และร่าง
               พระราชบัญญัติแรงงานประมง พ.ศ. .... เพื่อรองรับการให้สัตยาบันอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ

               ฉบับที่ 188 ว่าด้วยการท างานในภาคประมงทะเล ในส่วนของอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับ

               ที่ 98 ว่าด้วยสิทธิ ในการรวมตัวและการร่วมเจรจาต่อรอง ซึ่งในขณะนั้นคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน
               กันยายน 2561 ก่อนด าเนินการเพื่อให้สัตยาบันอนุสัญญาฯ ต่อไป

                       ในส่วน Partnership ซึ่งเป็น P สุดท้ายในยุทธศาสตร์นั้น ในต้นปี 2019 ไทยประสบความส าเร็จใน

               การปลดสถานะ “ใบเหลือง” หรือการหลุดจากรายชื่อกลุ่ม “ประเทศที่ถูกเตือน” (warned countries) ของ




                                                           [53]
   64   65   66   67   68   69   70   71   72   73   74