Page 158 - kpiebook61002
P. 158

จากรายการคณะผู้ไกล่เกลี4ยของสปป.ลาว แสดงให้เห็นว่าผู้ปฏิบัติหน้าที4ส่วนใหญ่ไม่ใช่เจ้าหน้าที4ของ

               รัฐ จากที4สํานักกิจการยุติธรรม (2552) ได้กล่าวไว้ว่าบุคคลที4เกี4ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรมทางอาญา ได้แก่

               ผู้กระทําผิด ผู้เสียหาย จําเลย ตํารวจ พนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ ศาล เจ้าหน้าที4ราชทัณฑ์ ล่าม
               นักจิตวิทยา พนักงานคุมประพฤติ สําหรับกระบวนการของยุติธรรมชุมชนแล้ว ในตัวอย่างของหน่วยไกล่เกลี4ย

               สปป.ลาวแม้จะมีบุคคลที4เกี4ยวข้องเป็นผู้กระทําผิดและผู้เสียหายเช่นเดียวกันกับกระบวนยุติธรรมทางอาญา

               แต่บุคคลที4เกี4ยวข้องอื4นนอกเหนือจากนั?นได้ใช้กลุ่มคนที4เป็นทุนทางสังคม อย่างเช่น กลุ่มแม่หญิง กลุ่มชาว
               หนุ่ม องค์กรปกครองบ้าน ที4นอกจากเข้าเป็นคณะกรรมการไกล่เกลี4ยแล้วยังมีบทบาทในการเยียวยาและรับคืน

               ผู้กระทําผิดกลับคืนสู่สังคมได้ด้วย ถือว่ากลุ่มบุคคลในงานไกล่เกลี4ยของสปป.ลาวได้เข้ามีบทบาทพึ4งพากัน

               สอดคล้องกับ Lanni  (2005)  ที4ว่างานยุติธรรมทางอาญาภาครัฐอาจมีบทบาทหลักแต่เมื4อเข้าสู่พื?นที4ของ

               ยุติธรรมชุมชนแล้วชุมชนจะเข้าช่วยในลักษณะของหุ้นส่วน พึ4งพากันระหว่างรัฐและชุมชน
                      อย่างไรก็ดี ผู้นําเสนอจากหมู่บ้านหนึ4งในอําเภอไซธานีกล่าวว่าการดําเนินงานยุติธรรมชุมชนในพื?นที4มี

               อุปสรรคอยู่บ้างที4เกี4ยวกับชุมชนเอง ได้แก่ บางหมู่บ้านผู้มีอํานาจการปกครองยังไม่เห็นความสําคัญและ

               ความสําเร็จของหมู่บ้านปลอดคดี ลังเลทําให้ประสานงานได้ล่าช้า ไม่สําเร็จตามระยะเวลาในขั?นตอนการ
               ดําเนินงาน คณะไกล่เกลี4ยจํานวนมากยังขาดประสบการณ์ ความสามารถและไม่มีพื?นฐานด้านการไกล่เกลี4ย

               มาก่อน การเข้าร่วมฝึกอบรมของคณะไกล่เกลี4ย บางท่านเข้าใจแต่บางท่านอาจไม่เข้าใจ คณะหน่วยไกล่เกลี4ย

               ได้เรียนแต่อาจยังไม่รู้เพียงพอ ไม่กว้างขวางพอ และบุคลากรในหน่วยไกล่เกลี4ยมีการเปลี4ยนหมุนเวียนบ่อย
               จัดตั?งไว้แล้วก็เปลี4ยนใหม่อีก

                      อุปสรรคบางประการที4พบจากการให้ข้อมูลของเจ้าหน้าที4จากสปป.ลาว ได้แก่ เรื4องความสามารถและ

               ประสบการณ์นี? ถือว่าเป็นสภาพปัญหาปกติทั4วไปของการดําเนินงานยุติธรรมชุมชนที4โดยภาพรวมแล้ว
               ความสามารถของยุติธรรมชุมชนถูกตั?งคําถามอยู่เสมอ ไม่เหมือนผู้ปฏิบัติงานในกระบวนการยุติธรรมกระแส

               หลักที4 อังคณา บุญสิทธิP (2548) ได้กล่าวว่ากระบวนการอาญาให้ความสําคัญกับความเชี4ยวชาญของ

               ผู้ปฏิบัติงาน ต้องผ่านการคัดเลือกที4เป็นระบบ คนที4ไม่มีความรู้และคุณสมบัติไม่สามารถทําหน้าที4ได้ เช่น

               พนักงานอัยการ ผู้พิพากษา ซึ4งในงานยุติธรรมชุมชนของสปป.ลาวเองก็ได้มีการกําหนดขอบเขตงานที4ชุมชน
               สามารถได้ไว้อย่างชัดเจน และพยายามอบรมให้กับหน่วยไกล่เกลี4ย ตลอดจนออกระเบียบที4กําหนดคุณสมบัติ

               ของผู้ทําหน้าที4 แต่เป็นธรรมดาที4ชุมชนยังขาดความรู้ความเชี4ยวชาญอยู่บ้างและต้องการความครอบคลุมของ

               การพัฒนาความสามารถของชุมชนเพื4อลดข้อจํากัดของชุมชน ดังที4จุฑารัตน์ เอื?ออํานวย, สุทธิ สุขยิ4ง, และมูฮัม
               หมัดรอฟีอี มูซอ (2549) กล่าวว่าการให้ชุมชนมีความรู้ในงานยุติธรรมนั?นเป็นความรู้และเชี4ยวชาญเชิงเทคนิค

               ชุมชนที4เข้ามาร่วมในงานยุติธรรมชุมชนต้องมีความสามารถในระดับหนึ4ง หากผู้ที4มาทําหน้าที4ยังขาดความรู้

               ความเข้าใจก็จะส่งผลต่อความน่าเชื4อถือของการทํางานยุติธรรมชุมชนโดยกลุ่มคนเหล่านี?

                                                           149
   153   154   155   156   157   158   159   160   161   162   163