Page 75 - b30427_Fulltext
P. 75
กฎหมายกีฬาของต่างประเทศและประเทศไทย: กฎหมายกีฬาของต่างประเทศและประเทศไทย:
ศึกษาเปรียบเทียบระหว่างกฎหมายกีฬาอังกฤษ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกาและไทย ศึกษาเปรียบเทียบระหว่างกฎหมายกีฬาอังกฤษ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกาและไทย
โดยกำหนดให้มีกระบวนการควบคุมตรวจสอบองค์กรกำกับกีฬาที่อยู่ภายใต้
การปกครองและกำหนดมาตรฐานการบริหารงานองค์กรกำกับกีฬาลำดับรองลงมา
ให้บรรลุเป้าหมายการของสนับสนุนธรรมาภิบาลกีฬาในแต่ละชนิดกีฬาหรือในระบบ
การแข่งขันกีฬา ด้วยเหตุนี้เององค์กรกำกับกีฬาได้นำเอาหลักธรรมาภิบาลมากำหนด
เอาไว้ในเจตนารมณ์ของกฎระเบียบว่าด้วยการกำกับวินัยหรือควบคุมมาตรฐาน
การแข่งขันกีฬา อันนำไปสู่การสร้างกฎระเบียบที่เป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจน
เป็นที่ยอมรับกันทั่วไปในแวดวงกีฬา พร้อมกับนำไปใช้ในแวดวงกีฬาอย่างเป็นเอกภาพ
รวมทั้งจัดให้มีกระบวนการตรวจสอบการใช้อำนาจองค์กรกำกับกีฬาอย่างมี
ระเบียบแบบแผน พร้อมกับเปิดโอกาสให้กระบวนการยุติธรรมเข้ามาจัดการกับ
ข้อขัดแย้งหรือข้อพิพาทระหว่างองค์กรกำกับกีฬาด้วยกันเองหรือองค์กรกำกับกีฬา
กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในแวดวงกีฬา
การสร้างธรรมาภิบาลผ่านการจัดทำกฎระเบียบหรือกฎเกณฑ์โดยองค์กรกำกับ
กีฬา ไม่ว่าองค์กรกำกับกีฬานั้นจะเป็นองค์กรกำกับกีฬาในแต่ละชนิดกีฬาหรือองค์กร
กำกับมาตรฐานการแข่งขันกีฬา ย่อมอาศัยหลักการปกครองตนเองของกีฬาในแต่ละ
ชนิดกีฬาหรือในแต่ละการแข่งขันกีฬา (Autonomy of Sport) โดยองค์กรกำกับกีฬา
มีอิสรภาพ (Independence) ในการกำกับดูแลชนิดกีฬาหรือการแข่งขันกีฬาของ
59
ตนเอง ทั้งในด้านจริยธรรมและมาตรฐาน แทนที่จะไปยอมตนให้อยู่ภายใต้การควบคุม
ของรัฐหรือหน่วยงานของรัฐอย่างสมบูรณ์ ซึ่งอาจสุ่มเสี่ยงต่อการใช้อำนาจของรัฐ
เข้าแทรกแซงกิจการกีฬาหรือการแข่งขันกีฬา อีกทั้งหากปล่อยให้รัฐสามารถ
เข้าแทรกแซงการกีฬาได้อย่างสมบูรณ์แล้ว รัฐอาจใช้อำนาจจำกัดสิทธิเสรีภาพ
ขององค์กรกำกับกีฬาและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในแวดวงกีฬา เหตุนี้เองการส่งเสริม
ธรรมาภิบาลภายในแวดวงกีฬาจึงดำรงอยู่ควบคู่กับการส่งเสริมความเป็นอิสระของ
องค์กรกำกับกีฬาให้องค์กรกำกับกีฬาในทุกระดับชั้น สามารถกำกับดูแลซึ่งกันและกันได้
พร้อมกับสร้างกลไกและกระบวนการขึ้นมาเฉพาะในการกำกับดูแลซึ่งกันและกัน
อย่างเหมาะสม ภายใต้การกำกับดูแลโดยอาศัยหลักธรรมาภิบาลกับนิติธรรมอย่าง
ควบคู่กันไป
59 Jean-Loup Chappelet, Autonomy of sport in Europe (Strasbourg: Council of Europe
Publishing, 2010).
สถาบันพระปกเกล้า