Page 135 - b29420_Fulltext
P. 135
พวกเขาไม่ได้มองว่าต้นเหตุแห่งปัญหานั้นเกิดจากความเชื่อและพฤติกรรมที่เคยปฏิบัติกันมากระทั่งกลายเป็น
วัฒนธรรมการ ‘เลี้ยงดูปูเสื่อ’ ที่ผู้สมัครไม่อาจปฏิเสธได้
ด้านผู้สมัครรับเลือกตั้งส่วนใหญ่แม้จะยอมรับที่จะเข้าร่วมโครงการ อย่างไรก็ตาม การเข้าร่วมโครงการไม่
อาจรับประกันได้ว่าผู้สมัครรับเลือกตั้งเข้าร่วมโครงการสืบเนื่องจากความเข้าใจความสำคัญของการเลือกตั้ง
สมานฉันท์และไม่ซื้อสิทธิขายเสียงหรือว่าเป็นเพราะเล็งเห็นผลประโยชน์บางประการจากการเข้าร่วมโครงการ
เนื่องจากบทสัมภาษณ์เชิงลึกทำให้ทราบว่าตัวผู้สมัครส่วนใหญ่ไม่ได้เข้าใจการเลือกตั้งสมานฉันท์และไม่ซื้อสิทธิขาย
เสียงตามทฤษฎีที่ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการเลือกตั้งสมานฉันท์และไม่ซื้อสิทธิขายเสียงต่อการส่งเสริม
ประชาธิปไตยและการร่วมกันคิดร่วมกันทำระหว่างผู้สมัครและผู้มีสิทธิเลือกตั้งในห้วงกระบวนการเลือกตั้งเพื่อให้
แนวนโยบายต่างๆสามารถตอบสนองความต้องการของคนในชุมชนได้อย่างแท้จริง แต่จากบทสัมภาษณ์ผู้สมัคร
ส่วนใหญ่เข้าใจว่าการเลือกตั้งสมานฉันท์และไม่ซื้อสิทธิขายเสียงนั้นเป็นเรื่องของการตกลงร่วมกันที่จะไม่
‘แจกเงิน’ ในการซื้อเสียงเป็นหลัก
อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะปฏิเสธการใช้เงินเพื่อ ‘หาคะแนนเสียง’ ในรูปแบบอื่นๆ
ที่สำคัญแม้จะมีการตกลงกันในการไม่แจกเงินเพื่อซื้อเสียง แต่ก็ยังพบว่ามีการตระเตรียม ‘ทุน’ ที่พร้อมสำหรับ
แจกจ่ายได้เสมอหากพบว่าอีกฝ่ายหักหลัง ทัศนคติเช่นนี้แสดงให้เห็นว่า ตัวผู้สมัคร ยังคงให้ความสำคัญกับชัยชนะ
และการลดต้นทุนทางการเมืองเป็นหลัก เมื่อเป็นเช่นนี้ การเข้าร่วมโครงการของผู้สมัครจึงเป็นในลักษณะของ
‘แขกผู้รับเชิญ’ ตามวาระที่แกนนำพลเมืองเชิญเข้าร่วมกิจกรรม ยังไม่ได้เป็นกลจักรหลักในการ ส่งเสริมการ
เลือกตั้งสมานฉันท์และไม่ซื้อสิทธิ์ขายเสียงอย่างแข็งขัน
ด้านอดีตผู้นำชุมชน หรือที่คนในชุมชนมักเรียกกันว่า ‘ผู้ใหญ่’ หรือ ‘ผู้เฒ่า’ โดยส่วนใหญ่แล้วเห็นด้วยกับ
การดำเนินโครงการเลือกตั้งสมานฉันท์และไม่ซื้อสิทธิขายเสียงในชุมชน โดยผู้ใหญ่เหล่านี้มีบทบาทอย่างสำคัญใน
การเชื่อมประสานผู้สมัครหรือผู้ที่คาดว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้ง ให้เข้าหารือและเจรจาร่วมกันเพื่อสร้างข้อตกลงใน
การเลือกตั้งสมานฉันท์และไม่ซื้อสิทธิ์ขายเสียงร่วมกันได้ แต่ด้วยความเข้าใจการเลือกตั้งสมานฉันท์และไม่ซื้อสิทธิ์
ขายเสียงยังไม่ถูกต้องตามหลักทฤษฎี จึงส่งผลให้ผู้ใหญ่เหล่านี้มีแนวโน้มที่จะใช้การเจรจาต่อรองเพื่อให้ผู้สมัคร
ทุกฝ่ายไม่ต้องแข่งขันกันเพื่อขจัดความขัดแย้งและการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายในชุมชนตั้งแต่แรก เพื่อความสมานฉันท์ใน
ชุมชน สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าแม้ตัวผู้นำชุมชนอดีตผู้นำชุมชนและปราชญ์ชาวบ้านที่เห็นด้วยกับการดำเนินโครงการ
เลือกตั้งสมานฉันท์และไม่ซื้อสิทธิขายเสียง แต่ก็ยังไม่มีความเข้าใจการเลือกตั้งสมานฉันท์อย่างถ่องแท้ การตีความ
การเลือกตั้งสมานฉันท์และไม่ซื้อสิทธิ์ขายเสียงว่าหมายถึง การไม่มีการแข่งขันกันตั้งแต่แรก จะส่งผลต่อทัศนคติใน
การดำเนินโครงการอย่างสำคัญ กล่าวคือ แทนที่จะส่งเสริมให้เกิดการแข่งขันกันอย่างสร้างสรรค์ภายใต้กติกาที่
ประชาชนมีส่วนร่วมกำหนดและมีส่วนร่วมในการจับตาการแข่งขันครั้งนี้ แต่กลายเป็นการปิดช่องทางการแข่งขัน
ตั้งแต่ต้น ซึ่งการทำเช่นนี้หากสุดท้ายตัวผู้สมัครปฏิเสธข้อเสนอ สิ่งที่จะเกิดตามมาก็คือ ผู้ใหญ่ในชุมชนจะไม่
สามารถจัดวางสถานะของตนในกระบวนการเลือกตั้งที่มีการแข่งขันดังกล่าวได้ เนื่องจากไม่ได้สนับสนุนให้มีการ
121