Page 49 - b29416_Fulltext
P. 49

47


                          การเลือกตั้งปี 2548

                          การเลือกตั้งครั้งนี้ยังคงใช้ระบบเลือกตั้งแบบเดียวกับการเลือกตั้งปี 2544 ผลการเลือกตั้ง
                   พบว่ามีพรรคที่ได้ที่นั่งเกินกว่าสัดส่วนคะแนนจ านวน 1 พรรค คือ พรรคไทยรักไทย ซึ่งความไม่เป็น

                   สัดส่วนเกิดจากสาเหตุหลักที่ก่อนเลือกตั้งมีพรรคการเมืองหลายพรรคยุบพรรคเข้ามารวมกับ

                   พรรคไทยรักไทย ท าให้พรรคไทยรักไทยชนะการเลือกตั้งในระบบเขตถึง 310 ที่นั่งจาก 400 ที่นั่ง
                   คิดเป็นร้อยละ 77.5 ในขณะที่พรรคได้คะแนนบัญชีรายชื่อ (ซึ่งเป็นตัวสะท้อนความนิยมต่อพรรค

                   ในภาพรวมระดับประเทศทั้งหมด) คิดเป็นร้อยละ 61.17
                          ในขณะที่มีพรรคการเมืองที่เหลือจ านวน 3 พรรคที่ได้เข้าสู่สภานั้นได้ที่นั่งน้อยกว่าสัดส่วน

                   คะแนนที่ตนได้รับ โดยพรรคประชาธิปัตย์ได้ที่นั่งน้อยกว่าสัดส่วนคะแนนบัญชีรายชื่อของพรรคมาก
                   ที่สุดคือ ร้อยละ 4.02 เนื่องจากชนะเลือกตั้งในระบบเขตเพียง 70 จาก 400 ที่นั่ง (ร้อยละ 17.5)

                   ในขณะที่คะแนนบัญชีรายชื่อได้ร้อยละ 23.22 ส่วนพรรคมหาชนก็ได้ที่นั่งน้อยกว่าที่ควรจะเป็น

                   ร้อยละ 3.94 เพราะท าคะแนนไม่ทะลุเพดานขั้นต่ าร้อยละ 5 ในระบบบัญชีรายชื่อ (ดูตารางที่ 3)


                   ตารางที่ 3 : ความไม่เป็นสัดส่วนระหว่างคะแนนเสียงและที่นั่งในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2548

                      พรรคการเมือง       คะแนนในระบบ          ที่นั่งในสภา   ความไม่เป็นสัดส่วนระหว่าง

                                       บัญชีรายชื่อ (ร้อยละ)   (ร้อยละ)     ที่นั่งกับคะแนนเสียง (ร้อยละ)
                      ไทยรักไทย              61.17              75.4                 14.23

                      ประชาธิปัตย์           23.22              19.2                 -4.02
                      ชาติไทย                 6.64               5.0                 -1.64

                      มหาชน                   4.34               0.4                 -3.94
                      ที่มา: ค านวณจากส านักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (2548)


                          การเลือกตั้งปี 2550
                          การเลือกตั้งครั้งนี้ยังคงใช้ระบบผสมแบบคู่ขนาน แต่ลดจ านวน ส.ส. บัญชีรายชื่อเหลือเพียง

                   80 ที่นั่งและเปลี่ยนเขตเลือกตั้งเป็นกลุ่มจังหวัด รวมทั้งเปลี่ยนเขตเลือกตั้งในระบบเขตเป็นแบบ

                   เขตเดียวหลายคน ผลปรากฏว่ามีพรรคที่ได้ที่นั่งเกินสัดส่วนคะแนนทั้งสิ้น 2 พรรคคือ พลังประชาชน
                   (เปลี่ยนชื่อมาจากไทยรักไทยหลังถูกยุบพรรค) และชาติไทย กรณีพลังประชาชนนั้นสาเหตุหลักก็เป็น

                   เช่นเดียวกับพรรคไทยรักไทยก่อนหน้านี้คือ ท าผลงานได้ดีในระบบเขตจนได้ส.ส. มากกว่าสัดส่วน

                   คะแนนของพรรคในระบบบัญชีรายชื่อ เช่นเดียวกับพรรคชาติไทยของนายบรรหาร ศิลปะอาชา
                   ซึ่งเป็นพรรคขนาดกลางแนวท้องถิ่นนิยมที่ได้คะแนนไม่มากนักจากระบบบัญชีรายชื่อ แต่ยังคงมี

                   ฐานเสียงที่ชัดเจนในเขตเลือกตั้งแถบภาคกลาง อย่างจังหวัดสุพรรณบุรี อ่างทอง ฯลฯ
   44   45   46   47   48   49   50   51   52   53   54