Page 129 - เอกสารประกอบการประชุมวิชาการ ครั้งที่ 23
P. 129
การประชุมวิชาการ
128 สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 23
ประชาธิปไตยในภูมิทัศน์ใหม่
พยาบาล และเภสัชกร (ได้ข้อมูลไม่ครบทุกเขตสุขภาพ) ที่มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องการดูแล
แบบประคับประคองทั่วประเทศ (ผ่านการอบรมไม่ว่าจะเป็นหลักสูตรระยะสั้นหรือระยะยาว)
พบว่ามีจำนวนทั้งสิ้น 2,920 คน นอกจากนั้นทัศนคติของบุคลากรด้านสุขภาพที่ไม่เคยผ่าน
การอบรมหรือไม่เคยเรียนรู้ในเรื่องการดูแลแบบประคับประคองยังไม่ยอมรับรูปแบบการดูแล
ดังกล่าว โดยบางส่วนคิดว่าเรื่องเหล่านี้คือการุณยฆาต หรือบางส่วนก็ต้องการยื้อให้ถึงที่สุด
เพราะไม่ยอมรับความตายที่เกิดขึ้น ดังนั้นในประเด็นนี้จึงต้องเร่งทำการอบรมบุคลากร
ด้านสุขภาพทั้งในส่วนที่กำลังศึกษาอยู่และที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลทั่วประเทศ เร่งพัฒนา
ตำราหรือแนวทางการปฏิบัติ (Guile line) เพื่อให้บุคลากรที่ปฏิบัติงานเหล่านี้มีความพร้อม
ในการดูแลผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ
แต่การผลิตกำลังคนด้านสุขภาพนั้นเป็นเพียงประเด็นหนึ่งของเรื่องการพัฒนา
บุคลากรด้านสุขภาพ การพัฒนากำลังคนด้านสุขภาพจะต้องมีการสร้างเส้นทางความก้าวหน้า
ในสายอาชีพ (Career path) และการสร้างมาตรฐานในการดำเนินการและการสร้างแนวทาง
การปฏิบัติของแต่ละวิชาชีพด้วย
สำหรับการสร้างเส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพของแพทย์ พยาบาล และ
บุคลากรด้านสุขภาพอื่นที่ทำงานในเรื่องการดูแลแบบประคับประคองยังเป็นประเด็นที่เป็น
ปัญหามาก เนื่องจากปัจจุบันตำแหน่งข้าราชการถูกสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน
กำหนดจำนวนและหน้าที่ตามตำแหน่งไว้ ซึ่งในสายงานของบุคลากรด้านสุขภาพนั้น
ไม่มีสายงานในเรื่องการดูแลแบบประคับประคองกำหนด ทั้งที่เรื่องการดูแลแบบประคับประคอง
เป็นส่วนสำคัญในการดูแลผู้สูงอายุ ในประเด็นนี้แสดงให้เห็นว่ายังไม่มีการดำเนินการตาม
แผนปฏิรูปประเทศ กล่าวคือ กระทรวงสาธารณสุขต้องการกำลังคนในด้านนี้แต่สำนักงาน
คณะกรรมการข้าราชการพลเรือนไม่มีการกำหนดนโยบายในเรื่องการเพิ่มอัตรากำลังของ
บุคลากรด้านสุขภาพเพื่อสนองตอบสังคมผู้สูงอายุ
และหากพิจารณาเรื่องการสร้างมาตรฐานในการดำเนินการของบุคลากรด้านสุขภาพแล้ว
พบว่าเรื่องการดูแบบประคับประคองเป็นประเด็นทางการแพทย์ที่เชื่อมโยงกับสังคมและกฎหมาย
ที่ก่อให้เกิดปัญหาทั้งในแง่ของการพัฒนาองค์ความรู้ ความเข้าใจ การตีความ ของทั้งบุคลากร
ด้านสุขภาพและประชาชน เช่น ปัญหาการยุติการใช้เครื่องพยุงชีพในช่วงวาระสุดท้ายของชีวิต
(Withhold and withdraw life sustaining treatment) การรักษาที่ไร้ประโยชน์ หากยุติการใช้
เครื่องพยุงชีพหรือยุติการรักษาที่ไร้ประโยชน์จะมีความผิดทางกฎหมาย หรือมีความผิดทาง
จริยธรรมหรือไม่ ประเด็นเหล่านี้มักถูกหยิบยกขึ้นมาอภิปรายเสมอในการดูแลแบบประคับประคอง
การประชุมกลุ่มย่อยที่ 4 (กรุงเทพธุรกิจ, 2561 : แสวง บุญเฉลิมวิภาส บรรณาธิการ, 2562) ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญ
ที่องค์กรวิชาชีพทั้งแพทยสภา และกระทรวงสาธารณสุขในฐานะฝ่ายนโยบายจะต้องมาพัฒนา
องค์ความรู้ แนวปฏิบัติ และข้อตกลงร่วมกันของบุคลากรด้านสุขภาพในประเทศ สำหรับในเรื่องนี้
ผู้เขียนเห็นว่าประเทศไทยมีประสบการณ์ในการพัฒนาแนวทางการปฏิบัติทางการแพทย์