Page 134 - เอกสารประกอบการประชุมวิชาการ ครั้งที่ 23
P. 134

การประชุมวิชาการ   1
                                                                                   สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 23
                                                                                       ประชาธิปไตยในภูมิทัศน์ใหม่

                  เพราะจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการขนศพ เสียเวลาในการดำเนินการขั้นตอนทางธุรการ ทำให้

                  ในหลายกรณีญาติไม่ยินยอมในนำผู้ป่วยกลับมาดูแลต่อและตายที่บ้านเพราะเกรงปัญหา
                  ดังที่กล่าว

                         ดังนั้นจึงควรพัฒนาระบบการส่งต่อข้อมูลผู้ป่วยระหว่างโรงพยาบาล และระหว่าง
                  โรงพยาบาลและฝ่ายปกครองในพื้นที่เพื่อแจ้งข้อมูลว่าผู้ป่วยขอกลับไปดูแลต่อและตายที่บ้าน

                  โดยมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องได้แก่ พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 และ
                  พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และพระราชบัญญัติการทะเบียนราษฎร
                  พ.ศ. 2534 ทั้งนี้เพื่อพัฒนาระบบการดูแลที่บ้าน เพิ่มอัตราการวางของเตียงในโรงพยาบาล
                  และเป็นการสนับสนุนการดำเนินการตามความต้องการของผู้ป่วยและอำนวยความสะดวกให้แก่ญาติ

                  ในการที่ผู้ป่วยเรื้อรังหรือผู้สูงอายุขอกลับมาดูแลต่อและตายที่บ้าน

                  6. สรุปและเสนอแนะ


                       จากการที่สังคมไทยมีจำนวนผู้สูงอายุ ผู้ป่วยที่เป็นโรคเรื้อรังรุนแรงและรักษาไม่หาย
                  เพิ่มมากขึ้น มีการขยายตัวของสังคมเมืองมากขึ้น ตลอดจนทัศนคติเกี่ยวกับความตายในสังคม
                  สมัยใหม่เปลี่ยนแปลงไปทำให้เกิดการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์เกินจำเป็น และ

                  จากพัฒนาการของระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยในสังคมไทยทำให้ประชาชนเข้ามามี
                  ส่วนร่วมในการจัดระบบบริการสุขภาพของประเทศมากขึ้นเรื่อย ทำให้มีความจำเป็นต้องพัฒนา
                  ระบบการดูแลแบบประคับประคองเพื่อรองรับกับความท้าทายดังกล่าว


                       การดูแลแบบประคับประคองเป็นการดูแลทางการแพทย์ที่เชื่อมโยงกับมิติทางสังคม
                  โดยจะเน้นไปที่การเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้รับการดูแลมากกว่าจะเน้นเรื่องการรักษาให้โรค
                  หายขาด ทั้งนี้เพื่อให้ผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยโรคเรื้อรังมีคุณภาพชีวิตที่ดีเท่าที่สภาพร่างกายและ
                  การดำเนินโรคจะเอื้ออำนวย ทั้งนี้เพื่อให้ผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยโรคเรื้อรังตายอย่างสงบสมศักดิ์ศรี
                  ความเป็นมนุษย์ ดังนั้นการดูแลที่มีคุณภาพจึงต้องคำนึงถึงการดูแลตั้งแต่เริ่มต้นจนกระทั่ง

                  ผู้รับการดูแลตายอย่างมีคุณภาพ ดังนั้นหากประเทศไทยจะต้องพัฒนาระบบการดูแลผู้สูงอายุ
                  และผู้ป่วยโรคเรื้อรังให้มีคุณภาพจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพัฒนาระบบการดูแลแบบประคับ
                  ประคอง

                       เมื่อศึกษาเอกสารทางวิชาการขององค์การระหว่างประเทศที่ได้รับการยอมรับในเรื่อง

                  การดูแลแบบประคับประคองพบว่าได้แนะนำว่าหากรัฐต้องการพัฒนาระบบการดูแลแบบ
                  ประคับประคองจะต้องดำเนินการใน 4 เรื่อง ได้แก่ (1) มีนโยบายระดับชาติในเรื่องการดูแล
                  แบบประคับประคองและจะต้องนำเรื่องดังกล่าวเข้าเป็นส่วนหนึ่งของระบบบริการสุขภาพของรัฐ

                  (2) พัฒนาบุคลากรด้านสุขภาพให้มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องการดูแลแบบประคับประคอง           การประชุมกลุ่มย่อยที่ 4
                  (3) มีระบบยาโดยเฉพาะยากลุ่ม opioids เพื่อใช้ในการระงับความปวดในการดูแล
                  (4) มีระบบงบประมาณ และระบบทางสังคมสนับสนุนการดำเนินการดูแลแบบประคับประคอง
   129   130   131   132   133   134   135   136   137   138   139